03 ตุลาคม 2566

บันทึกท่องเที่ยวมาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์/เก็นติ้งไฮแลนด์) 3 วัน 2 คืน (ก.ย. - ต.ค.66) โดยไม่ต้องพึ่งทัวร์

(มี Website, Location สถานที่และ Tracking เส้นทางเป็น Link อยู่ท้ายเพจ)

ที่มาที่ไป

          เมื่อวานหลังจากกลับมาถึงบ้านที่ท่ายางว่าง ๆ เลยโทรคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง สนทนาแลกเปลี่ยนการใช้เวลาที่ค่อนข้างมีเหลือเฟือในการไปท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเพื่อนก็ได้ถามถึงบรรยากาศการไปเที่ยวมาเลเซียเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาจากที่ได้เห็นภาพที่ผมส่งให้ทางไลน์ คุยไปคุยมาเขาก็บอกให้เขียนบันทึกข้อมูลการเตรียมการ และประสบการณ์การเดินทางไว้หน่อยเผื่อเพื่อนคนอื่นอาจจะสนใจเดินทางไปบ้างจะได้เป็นประโยชน์ไม่ต้องมาลองผิดลองถูกกันใหม่ ตกกลางคืนผมเอาคำพูดมานอนคิดก็น่าสนใจที่จะทำตามที่แนะนำมาน่าจะดี เพราะผมเองก็ประทับใจในการไปท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่น้อย

          ก่อนอื่นในการท่องเที่ยวมาเลเซียในครั้งนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดของตนเองเลยว่าอยากไป จำได้แต่ว่าเมื่อประมาณกลางปี 2538 ขณะที่เป็นนายทหารนักเรียนเสนาธิการทหารบก ทางหลักสูตรได้จัดให้มีการดูงานที่สิงคโปร์ ด้วยการนั่งรถบัสโดยสารเหมาจากกรุงเทพไปสิงคโปร์ ซึ่งต้องนั่งผ่านประเทศมาเลเซียตั้งแต่เหนือจดใต้แต่ไม่ได้แวะลงไปสถานที่ใดในมาเลเซีย ยกเว้นที่จอดพักเข้าห้องน้ำระหว่างเส้นทางหลวงที่ทันสมัย กว้างใหญ่ น่าประทับใจเท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่เคยได้ยินก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อ “เก็นติ้งไฮแลนด์” ที่ว่าเป็นสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวมาก โดยเฉพาะคาสิโนที่เลื่องชื่อแต่เอาเข้าจริงก็ไม่เคยได้ไป

ก่อนการเตรียมการ

          “อ้าวแล้วทำไมถึงได้ไปหล่ะ” ทุกท่านอาจจะสงสัย เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อประมาณกลางปีน้องฝนลูกสาวคนโตที่ทำงานอยู่ที่เชียงรายได้ชวนผมและครอบครัวทั้ง 5 คนไปเที่ยวต่างประเทศกันตามที่เคยตั้งใจกันไว้มานานแล้วตั้งแต่กลับจากสหรัฐอเมริกาในปี 2548 แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยได้ไปด้วยเหตุผลมากมาย จนกระทั่งผมเกษียณอายุเมื่อปี 2565 ที่แล้ว ประกอบกับปัจจัยต่าง ๆ เอื้ออำนวยก็เลยจองตั๋วเครื่องบินและที่พักกันไว้ล่วงหน้า 5 เดือนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองไม่ง้อทัวร์โดยเลือกเอาห้วงต้นเดือนธันวาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการวางแผนเที่ยวด้วยตนเองเพราะเห็นว่าน่าจะเสี่ยงกับข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดทำให้ต้องเสียเงินโดยไม่จำเป็นเสียเปล่า ๆ แต่ก็ได้แต่เพียงแสดงความคิดเห็นเท่านั้น เพราะสมาชิกอื่น ๆ เห็นว่าไม่น่ามีอะไรเพราะคนที่รู้จักหลาย ๆ คนเขาก็ไปเที่ยวกันเองทั้งนั้น

          “อ้าวแล้วทำไมถึงได้ไปเที่ยวมาเลเซียหล่ะ” ท่านผู้อ่านอาจจะถามซ้ำอีกครั้งให้เข้าเรื่อง เรื่องก็มีอยู่ว่าระหว่างที่รอเวลาไปญี่ปุ่น น้องฝนก็ชวนให้ไปเที่ยวเชียงรายกันก่อนห้วงหยุดยาว 3 วันในเดือนตุลาคม แต่ผมรู้ก็บอกว่าคงจะไม่ไปหรอกเพราะนึกถึงการขับรถไปกลับก็ท้อ และถ้านั่งเครื่องบินก็ไม่สะดวกในเรื่องอื่นอีก เรื่องก็เงียบไป แต่พอเงียบไประยะหนึ่ง 

เตรียมการ

          1 ส.ค.66 น้องฝนก็ไลน์มาถามว่าศุกร์เสาร์อาทิตย์รอยต่อ กันยายน ตุลาคม (3 วัน 2 คืน) ว่างไหม ก็ตอบไปว่าว่าง หายไปสักพักก็แจ้งมาว่าได้จองเครื่องบินไปเที่ยวมาเลเซีย ครอบครัว 5 คน และเพื่อนน้อง ฝนอีก 1 คน รวม 6 คน เดินทางไปกลับด้วยสายการบินโลว์คอสท์ MY Airline โดยใช้ข้อมูลหนังสือเดินทางจากที่ใช้จองเครื่องบินไปญี่ปุ่นที่เคยให้ไว้ก่อนหน้า 6 คน เป็นเงิน 16,560 บาท (2,760 บาท/คน) โดยมีเฉพาะของนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้คนละ 7 กิโลกรัม (กก.) ก็ได้แต่ร้องเฮ้ย แต่ก็ต้องเลยตามเลย แล้วก็บอกว่าให้ซื้อน้ำหนักของบรรทุกใต้ท้องเครื่องไปอีก 2 ใบ ๆ ละ 20 กก. ไปกลับ 6 คน เป็นเงิน 2,930 บาท (488.33 บาท/คน)

          หลังจากนั้นก็มาใช้เวลาดู YouTube ที่คนไทยทำไว้หลังจากไปเที่ยวมาเลเซียมาดูสถานที่ต่าง ๆ ที่น่าจะไปกัน ก็ได้มาหลายแห่ง ระหว่างนั้นก็เลือกโรงแรมที่พักที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและตึกแฝดโปรโตนาสใช้เวลาเดินไม่นาน 

        6 ส.ค.66 ก็เลือกได้โรงแรม Concorde 3 วัน 2 คืน เข้าพัก 29 ก.ย.66 ออก 1 ต.ค.66 จำนวน 3 ห้อง รวมราคา 14,778.44 บาท (2,463.07 บาท/คน) โดยจองผ่าน App Trip.com  

          ระหว่างเดือน ก.ย.66 ก่อนเดินทาง ครอบครัวก็ทะยอยแลกเงินมาเลเซีย (ริงกิต) จากร้านแลกเงิน Super Rich ตามห้างเซ็นทรัล คนละประมาณ 5,000 – 10,000 บาท (1 ริงกิต = 7.85 บาท) เพื่อนำไปใช้เป็นค่าอาหารและการเดินทางในมาเลเซีย ส่วนผมก็สั่งหัวแปลงปลั๊กไฟฟ้าแบบมาเลเซีย (Type G) มาเป็นแบบไทย (Type A) จาก Lazada มา 6 อันรวมค่าส่ง 120 บาท (20 บาท/อัน) และสั่งซื้อ Airtag แบบชุด 4 อัน 3,990 บาท (997.50 บาท/อัน)  จาก App Apple Store เพื่อแจกให้กับครอบครัวเพื่อใส่ (ซ่อน) ไว้ในกระเป๋าถือเผื่อติดตามหากกระเป๋าเกิดสูญหาย

         อีกสองสามอย่างที่หาข้อมูลเตรียมไปด้วย อย่างแรกคือ การทำวีซ่าเข้าประเทศมาเลเซียได้คำตอบจากลูกสาวว่านักท่องเที่ยวไม่ต้องทำวีซ่า เรื่องต่อมาคือการทำประกันสุขภาพหลังจากค้นหาจากกูเกิ้ลแล้วนำเวลาที่จะไปอยู่ไม่เกิน 3 วันมาคิด จึงตัดสินใจว่าน่าจะยอมรับความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้เพราะคิดว่าสภาพแวดล้อม อากาศคงเหมือนบ้านเรา เรื่องสุดท้ายก็คือ เรื่องมาตรการโควิด – 19 ได้รับการยืนยันว่าไม่มีมาตรการกักตัวหรือการตรวจการฉีดวัคซีนหรือการบังคับสวมหน้ากากแต่อย่างใด และเพิ่มเติมก็คือ เรื่องหนังสือเดินทางตรวจดูวันหมดอายุแล้วมีเหลือไม่เกิน 6 เดือนอยู่คนเดียวก็ไปทำมาแทนเรียบร้อย

          27 ก.ย.66 ก่อนเดินทาง 2 วัน ก็กด App ที่จอดรถ.com เพื่อจองที่จอดรถที่จะขับรถตนเองไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วฝากไว้บริษัทรับจอดรถ ที่อยู่ใกล้สุวรรณภูมิ รวม 3 วัน ในราคา 574.59 บาท

          28 ก.ย.66 เดินทางจากบ้านท่ายางไปบ้านสุทธิสารถึงประมาณ 19.00 น. จัดกระเป๋า 3 ใบและสิ่งของที่บรรจุ

-    กระเป๋าติดตัวแบบสะพาย กระเป๋าเงิน, เงินไทย, เงินมาเลเซีย, บัตรเครดิต, บัตร ATM, หนังสือเดินทาง, แว่นกันแดด, มือถือ, แว่นสายตา, ยาอม,  ยาแก้ไอ, ไหมขัดฟัน, สายชาร์จพร้อมหัวชาร์จและ Adapter, Airtag

-     กระเป๋าติดตัวแบบลาก เสื้อคลุม, มือถือสำรอง, สายชาร์จมือถือ 3 in 1, แว่นสายตาสำรอง, กุญแจรถ, เสื้อผ้าสำรองAirtag

- กระเป๋าขนาดกลางบรรทุกใต้ท้องเครื่องบิน ชุดวิ่ง, เสื้อผ้าที่จะใช้ต่อไป, รองเท้าแตะ, อุปกรณ์วิ่ง, อุปกรณ์อาบน้ำ, ปลักไฟฟ้าแบบราง, มีดพับเอนกประสงค์, สายชาร์จ AppleWatchAirtag

แจกจ่าย Airtag (ที่ซื้อใหม่) ให้แต่ละคนและตั้งค่าให้แชร์กันทุกคน

น้องฝนเช็คอินเครื่องบินออนไลน์ล่วงหน้า  

วันเดินทางที่ 1 (วันแรก) 29 ก.ย.66   

          05.00 น. ตื่นนอนเก็บข้าวของรอบสุดท้าย ตรวจสอบหนังสือเดินทาง เงิน บัตรเครดิต บัตรประชาชน

08.30 น. ออกจากบ้านที่สุทธิสาร 4 คน ขึ้นทางด่วน (75 บาท) ไปจอด ที่จอดรถ.com ก่อนถึงสุวรรณภูมิตามที่จองไว้ ระหว่างทางก็ให้ครอบครัวได้กดซื้อบริการอินเทอร์เน็ตมาเลเซียจาก AIS โดยกดซื้อจาก App My AIS แบบ Ready2Fly เน็ต 2 GB 99 บาท 7 วัน (น้องฝนและเพื่อนมาขึ้นเครื่องบินมาจากเชียงราย) มาถึงประมาณ 10.30 น.

         09.30 น. ลงจากรถของบริษัทที่มาส่งถึงอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลงไปชั้นล่างของอาคารเพื่อซื้ออาหารเช้ารับประทานประมาณ 500 บาท

          10.30 น. กลับขึ้นไปชั้น 4 ช่อง G เค้าเตอร์ของ MY Airline โหลดกระเป๋า รับตั๋วเครื่องบิน ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเดินดูสินค้าปลอดภาษีแล้วไปรอที่ประตูขึ้นเครื่อง 

          12.15 น. ประตูเปิดขึ้นเครื่องบิน

              12.45 น. เครื่องบินออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามกำหนด ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชม.

(ตั้งแต่นี้ไปใช้เวลามาเลเซีย ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม.)

          16.00 น. เครื่องบินลงจอดท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ เทอร์มินอล 2 เร็วกว่ากำหนด 15 นาที

          16.30 น. รับกระเป๋าและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง มารอรถ Grab แทนการนั่งรถไฟ รถ Grab เรียกผ่าน App ใช้รถขนาดใหญ่สำหรับ 6 คนและกระเป๋าใหญ่ 2 ใบ จากเทอร์มินอล 2 ไปโรงแรม Concorde ระยะทาง 62 กม. รถติดในเมืองเนื่องจากฝนตก ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ราคารวมค่าผ่านทาง 190 ริงกิต 



          18.00 น. เช็คอินเข้าโรงแรม Concorde  ต้องเสียภาษีนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 60 ริงกิต (10 ริงกิต/คน) ทิป 10 ริกกิต

          18.30 น. ออกจากโรงแรม Concorde ด้วยรถไฟฟ้า Monorail สถานี Bukit Nanas  ไปลงสถานี Bukit Bintang ราคา 6 คน 10.8 ริงกิตแล้วเดินต่อไปร้านอาหารจีนหมาหล่า ชื่อ Da long Yi 

          19.00 น. รับประทานหมาหล่าตามสั่งร้าน Da long Yi 6 คน ราคา 521.51 ริงกิต พนักงานห้ามรับทิป




          21.00 น. หลังอาหารเดินไป Jalan Alor Food Street เพื่อดูบรรยากาศปิดถนนเดินกินและรื่นเริง กินขนมหวาน/อาหารท้องถิ่นเพิ่มเติม 30 ริงกิต แล้วเดินทางกลับโรงแรม Concorde ด้วยรถไฟย้อนกลับ 6 คน 10.8 ริงกิต  

 





          22.00 น. ถึงที่พัก นอนหลับพักผ่อน

วันเดินทางที่ 2 (วันกลาง) 30 ก.ย.66

          06.00 น. ตื่นอาบน้ำแต่งตัว

          07.00 น. ลงมารับประทานอาหารเช้าของโรงแรม อาหารนานาชาติ มีจำนวนมาก คนก็เยอะตามไปด้วย

          08.30 น. ออกจากโรงแรมเดินทางด้วย Grab ไปศูนย์ขนส่ง KL Sentral  11 ริงกิต ถึงประมาณ 09.03 น. เมื่อไปเดินไปที่ขายตั๋วรถบัสไปเก็นติ้งคนละ 10 ริงกิต/คน/เที่ยว ถ้า 6 คน ไปกลับก็ 120 ริงกิต แต่คนขายตั๋วบอกว่ารถบัสเหลือรอบต่อไปต้อง 13.30 น. และขากลับ 20.00 น. ซึ่งคงไม่สะดวกแน่ ระหว่างสอบถามก็มีคนขับแท็กซี่ชื่อ Asmi มาติดต่อให้เหมารถเขาในราคาไปกลับ 350 ริงกิต แพงกว่าเดิมเกือบ 3 เท่า แต่มองในแง่ดีก็ถือว่าไม่แพงมากหากเทียบกับราคา Grab จากสนามบินมาที่พักต่อเที่ยวในระยะใกล้เคียงกัน ก็เลยตกลงก่อนไป Asmi ก็พาไปร้านขายช็อคโกแล็ตของมาเลเซียที่อยู่ไม่ไกลให้เสียเงินอีกหน่อย

          11.00 น. เดินทางถึงสถานีรถกระเช้า Genting Highlands Premium Outlet ขึ้นไปเก็นติ้งซื้อตั๋ว 108 ริงกิต (18 ริงกิต/คน) เป็นรถกระเช้าที่ไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างได้ รถกระเช้าพาไปน่าจะหลายร้อยเมตรอยู่ก็ถึงสถานีกลางทางให้ลงเพื่อไปเที่ยววัด Chin Swee  ซึ่งก็น่าทึ่งอีกเช่นกันในความศรัทธาของมนุษย์ที่ช่างหาสถานที่มาสร้างให้คนได้มาชื่นชมกัน เช่น เจดีย์ และสถานที่โดยรอบ ให้ได้ถ่ายภาพกัน






          11.30 น. จากนั้นก็กลับมานั่งกระเช้าต่อขึ้นไปอีกจนถึงชั้นบนสุดที่เรียกว่าเก็นติ้งไฮแลนด์  ความสูงจากระดับทะเล 1,700 เมตร ที่เรียกว่าเหลือเชื่อจริงว่าเขามาสร้างกันได้อย่างไรในที่ยากลำบากเช่นนี้


          12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว Lenu Chef Wai’s Noodle Bar  ค่าอาหาร 6 คน 361.5 ริงกิต

          13.00 น. เดินชมสถานบันเทิงและสวนสนุกในร่มได้สักพักก็เดินออกไปดูสวนสนุกภายนอกที่เปิดให้เล่นได้ถึงเย็นแต่เมื่อสอบถามราคาตั๋วแล้วตกคนละ 186 ริงกิต ก็เลยชวนกันกลับเข้าไปภายใน ซึ่งนับว่าตัดสินใจถูกเพราะสักพักฝนก็ตกหนักไม่อยุดทำให้เครื่องเล่นสวนสนุกภายนอกต้องหยุดไปด้วย


          15.00 น. นั่งรถกระเช้ากลับมาที่สถานีต้นทาง Genting Highlands Premium Outlet เดินดูร้านค้ารอฝนซาลงประมาณ 16.00 น. ก็ใช้ WhatsApp เรียก Asmi มารับกลับ 



17.30 น. ใช้เวลาชั่วโมงกว่าการเดินทางจาก Outlet มาถึงอาคารแฝด Petronas Twin Towersการจราจรระหว่างทางเรียกว่าไม่ติดเหมือนตอนไป จะมีช้าบ้างตอนจ่ายค่าผ่านทาง แต่จะมาติดอีกทีก่อนถึงตึกแฝดเพราะตำรวจปิดถนนจะจัดงานอะไรสักอย่าง (คิดว่าเป็นการเตรียมจัดการแข่งขันจักรยานเพราะเห็นป้ายจอทีวีมีภาพคนแข่งจักรยานกันหลายสี่แยก) ก่อนถึงสัก 300 เมตรก็ไปต่อไม่ได้ ก็เลยลงเดิน ที่มีความรู้สึกเหมือนหนังที่เปิดตัวสิ่งมหัศจรรย์ที่ค่อย ๆ โผล่มาจากร่มเงาต้นไม้มากขึ้นยิ่งเราเดินเข้าไปใกล้ จนเห็นตึก Petronas เต็มตา โชคดีที่ฟ้ายังสว่างมากอยู่ มีคนอยู่หน้าตึกจำนวนมากเพื่อถ่ายภาพตนเองคู่กับตึกแฝดด้านติดถนน Jalan Ampang ที่สะดุดตาอย่างหนึ่งก็คือจะมีกลุ่มผู้ชายหลายคนถือโทรศัพท์มือถือมาโชว์ภาพถ่ายคนหน้าตึกให้ดู มาทราบทีหลังคือ เขารับจ้างถ่ายภาพที่สวยงาม สมดุลของภาพให้กับนักท่องเที่ยวที่อย่างได้ภาพสวย ๆ (แบบถ่ายภาพนักวิ่งตามรายการต่าง ๆ) โดยกล้องจากมือถือของเขาในราคาครั้งละ 10 ริงกิต (ประมาณ 5 ภาพ) ตอนแรกก็ไม่ยอมเป็นลูกค้าของกลุ่มนี้ จนเห็นคนมามากขึ้นและจ้างคนถ่ายภาพมากขึ้น ลูกชายก็เลยจ้างไป 5 ริงกิต เพื่อให้ถ่ายภาพหมู่ของพวกเราทุกคน

18.00 เดินเข้าไปหาร้านอาหารในตึก Petronas 5 ชั้นแรกเป็นห้างสรรพสินค้า เดินขึ้นเดินลงอยู่สักพักก็ได้ร้านอาหารชื่อ Chili's 6 คน กว่าจะได้กินก็ต้องต่อคิวเกือบครึ่งชั่วโมง กินอิ่มแล้วจ่ายไป 565.30 ริงกิต จากรายการอาหารที่สั่งมาจนต้องห่อกลับไปกินต่อที่โรงแรม  



19.30 อิ่มแล้วฟ้ามืดก็เดินมาที่ลานน้ำพุด้านตรงข้ามฝั่งที่มาเมื่อตอนเย็นจะมีลานน้ำพุที่เขาแสดงไฟตามโฆษณา แต่ถ่านมือถือใกล้หมดเลยได้แต่เดินผ่าน ๆ แล้วเดินทะลุกลับมาที่ลานถ่ายรูปเดิมที่นัดกับลูก ๆ ปรากฎว่ามีคนมาถ่ายรูปมากกว่าตอนเย็นเสียอีก พอลูกมากถึงก็เลยถ่ายภาพกลางคืนที่ไฟสว่างไสวของตึก Petronas อีกรอบก่อนเดินทางกลับมาโรงแรม Concorde ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก

21.00 น. ถึงโรงแรมนอนพักผ่อน ส่วนลูก ๆ ที่กลับมาด้วยกันก็ออกไปเดินต่ออีกรอบ

วันเดินทางที่ 3 (สุดท้าย) 1 ต.ค.66

          05.00 น. นาฬิกาปลุกตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำเสร็จ เปลี่ยนใจว่าจะลงไปออกกำลังกายด้วยการวิ่งผสมเดินรอบเมืองตามที่ชอบทำเวลาไปที่ที่ไม่เคยไป แต่รู้สึกเจ็บเท้าที่เดินเมื่อวานและสองวันก่อนหน้ารวมกันมากกว่า 40 กม. เลยขึ้นเตียงกลับไปนอนต่อ

          06.30 น. ภรรยาตื่นขึ้นมาเปิดหน้าต่าง ๆ แล้วบอกว่าด้านล่างถนนหน้าโรงแรมมีคนมาวิ่งกันเยอะแยะไปหมด ก็เลยเด้งดึ๋งขึ้นมาจากเตียง เปลี่ยนชุดนอนเป็นชุดวิ่งอย่างรวดเร็วพร้อมมือถือและกระเป่าคาดเอวใส่เงิน กระเป๋าเล็กแบบด้านหลังใส่มือถือออกจากโรงแรมวิ่งตามเส้นทางแต่อยู่คนละฝั่งกับนักวิ่ง และสังเกตข้างทางจึงรู้ว่าเช้าวันนี้มีการจัดงานวิ่ง Kuala Lumpur Marathon 2023 จึงวิ่งตามไปจนถึงตึก Petronas หยุดขอให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาและพนักงานทำความสะอาดหน้าตึกช่วยถ่ายรูปให้ แต่ตอนนี้นักวิ่งเหลือน้อยแล้วเพราะคงปล่อยตัวมาตั้งนานแล้ว ตามมารยาทการจัดงานวิ่งเลยทำให้ผมต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่ไม่ไปอยู่ในเส้นทางวิ่งที่เขาจัดงาน เลยตั้ง GPS ให้พาไปที่ KL Tower ไปถ่ายภาพที่ฐานหอคอยโดยขอแลกการถ่ายรูปกับนักปั่นจักรยานหนุ่มสาวสองคน จากนั้นก็โทรถามเวลากับลูกว่าจะออกจากโรงแรมกี่โมง ได้รับคำตอบว่า 10.00 น. มีเวลาอีกชั่วโมงกว่าก็เลยตั้ง GPS ต่อไปที่ตึก Merdeka 118 ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในมาเลเซียและสูงเป็นที่ 2 ของโลก (แต่สวยและสง่างามน้อยกว่าตึก Petronas) ก่อนกลับมาที่โรงแรมระยะทางรวมประมาณ 10 กม. ใช้เวลารวมเกือบ 2 ชม.

 



                    ระหว่างนี้น้องฝนเช็คอินสายการบิน MY Airline ออนไลน์

          09.00 น. อาบน้ำ เก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ ลงมารับประทานอาหารเช้าของโรงแรม

          09.45 น. เช็คเอ้าท์ ฝากกระเป๋ากับโรงแรมแจ้งว่าจะกลับมารับคืนตอนเที่ยง

          10.00 น. ขึ้นรถไฟฟ้า Monorail สถานี Bukit Nanas ไปลงสถานี Bukit Bintang 6 คน 10.8 ริงกิต แล้วเดินต่อไปที่ห้างสรรพสินค้า Pavilion ไปร้าน Running Lab เพื่อซื้อรองเท้าวิ่ง On Flyer ราคา 869 ริงกิต และรองเท้าแตะ Hoka ราคา 379 ริงกิต (สมัครสมาชิกได้ลด 10%) (โอ้วแม่เจ้ารองเท้าแตะคู่ละ 2,975 บาท)

          11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันเป็นเบอร์เกอร์ร้าน Five Guys ในห้าง Pavilion 6 คน 250 ริงกิต

          11.45 น.  เดินไปขึ้นรถไฟฟ้า Monorail กลับโรงแรม

          12.00 น. เรียก Grab สำหรับ 6 คน รับที่โรงแรมไปท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ เทอร์มินอล 2  182 ริงกิต

         13.08 น. ถึง เทอร์มินอล 2 แต่ละคนซื้อของฝากเพิ่มเติม รับตั๋วเครื่องบิน โหลดกระเป๋า ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

          16.30 น. เครื่องบิน MY Airline ออกจากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ตามเวลา ใช้เวลาบิน 2 ชม. 15 นาที

(ตั้งแต่นี้ไปใช้เวลาไทย ซึ่งช้ากว่าเวลามาเลเซีย 1 ชม.)

          17.45 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า โทรแจ้งผู้ให้บริการรับฝากรถ ที่จอดรถ.com ให้มารับตามนัด ชั้น 4 ประตู 2

          18.00 น. เดินทางออกจากท่าอากาศยานไปรับรถที่ฝากจอดไว้คืน เดินทางกลับบ้าน ค่าทางด่วน 75 บาท

            19.00 น. รับประทานอาหารเย็นก่อนถึงบ้าน

            20.30 น. ถึงบ้านพักเรียบร้อย เคลียร์ข้าวของจากกระเป๋าเดินทางกลับสู่ที่เดิม สวัสดี

  สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ตั๋วเครื่องบิน+สัมภาระ+โรงแรม+ค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่มาเลเซีย+รายจ่ายย่อย = รายจ่ายทั้งหมด 6 คน 16,560+2,930+14,778+(21,280)+5,000 = 60,548 บาท เฉลี่ยคนละ 10,000 บาทเศษ (ไม่รวมของส่วนตัว/ของฝาก)

             สรุปการเดิน 3 วัน (ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์) จากApp นับก้าวใน AppleWatch รวม 74,208 ก้าว คิดเป็นระยะ 53.5 กม. ดังนั้นใครจะไปเที่ยวคงต้องซ้อมเดินกันไว้บ้าง

          การท่องเที่ยวครั้งนี้ขอขอบคุณน้องฝนกับน้องบีมาก ๆ สำหรับการจัดการเดินทางสุดแสนมหัศจรรย์ที่มาเลเซีย สุดเซอร์ไพร์สกับการที่ได้วิ่งรอบกัวลาลัมเปอร์, ตื่นตลึงกับความยิ่งใหญ่เก็นติ้งไฮแลนด์, ประทับใจไม่มีวันลืมกับตึกแฝดเปโตรนาส, สุดอิ่มและอร่อยกับอาหารทุกมื้อ, โรงแรมที่พักที่สะดวกมีระดับ และที่สุดของที่สุดคือ ความรู้สึกที่ย้อนกลับไปสู่ความอบอุ่นของครอบครัวที่แสนสุขสันต์เมื่อ 20 ปีก่อน ขอบคุณทั้งสองและทุกคนที่ทำให้ทริปแห่งความฝันนี้กลายเป็นความจริงที่ไม่วันลืม

------------------------------------------------

บันทึกโดย เบญจพล 03 ต.ค. 66

Website และ Location ของสถานที่และบริการต่าง ๆ

MY Airline   https://www.myairline.my/

โรงแรม Concorde  https://maps.app.goo.gl/ay6noj9RdNRnJGbd6  

จองต่างในการเดินทาง Trip.com https://th.trip.com/?locale=th_th 

บริษัทรับจอดรถ https://www.airxparks.com/ หรือ https://www.ที่จอดรถ.com

จุดฝากจอดรถสุวรรณภูมิ https://maps.app.goo.gl/ckHscbjdaAQAvTXs9

สถานี Bukit Nanas https://maps.app.goo.gl/SGX9c5pRP3SPT6KG8

สถานี Bukit Bintang https://maps.app.goo.gl/LEF6GTGQJuLgfLBt9

ร้านอาหาร (หมาล่า) Da Long Yi Hotpot (Bukit Bintang) https://maps.app.goo.gl/qds5BN62id9dchUS8

ศูนย์ขนส่ง KL Sentral https://maps.app.goo.gl/BzqPDJ8a6JDfjRPg8  

WhatsApp เรียก Asmi +60 19-369 7574

Genting Highlands Premium Outlet https://maps.app.goo.gl/Bj4ZfNp4Zjbd3BqJ9

วัด Chin Swee  https://maps.app.goo.gl/i1CoGXWWBuGhMuod8

เก็นติ้งไฮแลนด์ https://maps.app.goo.gl/rXpzwC5P3gCFG2SLA

Petronas Twin Towers https://maps.app.goo.gl/6RNBDTzqxYuVLKNf6 

หอคอยกัวลาลัมเปอร์ KL Tower (Menara Kuala Lumpur) https://maps.app.goo.gl/V7jf8jbt8vQkoQNM8

Merdeka 118 https://maps.app.goo.gl/U4eHpggCjjAD4sYo6 

ห้างสรรพสินค้า Pavilion https://maps.app.goo.gl/4KgzNLdPZVZNcaFY6 

 

เส้นการเดินทาง

เครื่องบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึง ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (T2) https://www.wikiloc.com/flying-trails/660929-suvarnabhumi-kl-airport-t2-148617683

รถยนต์จากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (T2) ถึง โรงแรม Concorde  https://www.wikiloc.com/car-trails/660929-kl-airport-t2-concorde-hotel-148590332

เดินและรถรางเดี่ยวจากร้านอาหาร Da long Yi - Food Street - โรงแรม Concorde https://www.wikiloc.com/car-trails/660929-hmaahlaa-da-long-yi-food-street-concorde-hotel-148614969

รถยนต์จากโรงแรม Concorde - Genting Highland อาคารแฝด Petronas https://www.wikiloc.com/car-trails/660930-concorde-genting-highland-petronas-148711956

วิ่งจากอาคารแฝด Petronas หอคอย KL Tower - อาคาร Merdeka 118 https://www.wikiloc.com/running-trails/661001-petronas-kl-tower-merdeka-118-148790462

รถรางเดี่ยวและรถยนต์จากโรงแรม Concorde - ห้าง Pavilion - ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (T2) https://www.wikiloc.com/car-trails/661001-concorde-pavilion-kl-airport-t2-148794282

เครื่องบินจากท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (T2)  ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ https://www.wikiloc.com/flying-trails/661001-kl-airport-t2-suvarnabhumi-148824676

------------------------------------------------

 

 

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ