รวบรวม/เรียบเรียงโดย พ.อ. ณรงค์ สุดประเสริฐ อจ.หน.แผนก จจ.สอ. กศ.รร.ร.ศร. 31 มี.ค.42
-------------------------------------------------------------------------
![]() |
| สัญลักษณ์แผนกวิชาการจู่โจมและส่งทางอากาศ ศร. |
การกระโดดร่มในประเทศไทยครั้งแรกนั้นกระทำโดยหน่วยเสรีไทย เพื่อปฏิบัติการต่อต้านญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2488 และภายหลังสงครามสิ้นสุดลง ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้เริ่มแผ่ขยายไปทุกภาคของโลกทั้งทางด้านการเมืองและการทหาร จีนคอมมิวนิสต์ใช้ยุทธวิธีการต่อสู้ทางทหารที่เรียกว่ายุทธวิธีป่าล้อมเมือง คอมมิวนิสต์รัสเซียใช้การต่อสู้ทางรัฐสภาโดยชนชั้นกรรมาชีพให้การสนับสนุนและยึดอำนาจรัฐซึ่งขณะนั้นประเทศมาลายู (มาเลเซีย) เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและถูกคุกคามจากจีนคอมมิวนิสต์ รัฐบาลอังกฤษดำเนินการปราบ โดยใช้วิธีการรบในป่าอยู่หลายปีจึงสามารถยุติการคุกคามลงได้ ต่อมารัฐบาลไทย (จอมพล ป. พิบูลยสงคราม) มีแผนการป้องกันภัยจากคอมมิวนิสต์ จึงได้ส่งกำลังพล นายทหารและนายสิบเข้าศึกษาการรบในป่า ณ ประเทศมาลายู โดยมีทหารจากกองทัพอังกฤษในประเทศสิงคโปร์และมาลายูเป็นครูฝึก
![]() |
| พลร่มไทยรุ่นแรก ๆ และเจ้าหน้าที่ CIA |
พ.ศ.2493 รัฐบาลไทยโดย พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ ได้อนุมัติให้ พันตำรวจเอก เจมส์ วิลเลียม แลร์ (James William Lair) หรือ Bill Lair (ได้รับยศจากกรมตำรวจไทย) เจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลาง สหรัฐอเมริกา (Central Intelligence Agency : CIA) รวมทั้ง บริษัท ซีซัพพลาย (SEA Supply*) ซึ่งเป็นหน่วยงานอำพรางของสำนักข่าวกรองกลางได้ให้ความช่วยเหลือแก่กรมตำรวจของไทย โดยจัดตั้งโรงเรียนการฝึกอาวุธพิเศษขึ้น ใช้สถานที่โรงเรียนกำพร้าสงคราม** ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขาเอราวัณ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี เป็นค่ายฝึกชั่วคราว ดำเนินการฝึกสอนเกี่ยวกับอาวุธใหม่ และฝึกกระโดดร่มให้กับกรมตำรวจ โดยมีครูอเมริกันเป็นผู้ฝึกสอน
นักโดดร่มรุ่นแรกของกองทัพบก
พ.ศ.2494 กรมจเรทหารราบ
(ศูนย์การทหารราบปัจจุบัน) จัดส่งนายทหารชั้นสัญญาบัตรและนานทหารชั้นประทวน
เข้าฝากเรียนในหลักสูตรอาวุธพิเศษและกระโดดร่มในรุ่นที่ 2 ของโรงเรียนการฝึกอาวุธพิเศษ
กรมตำรวจ และเนื่องจากกองทัพบกยังไม่มีอัตราการจัดหน่วยทหารพลร่ม กำลังพลซึ่งสำเร็จการศึกษาจึงยังไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นนักโดดร่ม
นับเป็นจุดแรกเริ่มของการก่อกำเนิดทหารพลร่ม และในปลายปีนั้น ผู้บัญชาการทหารบก
ได้บัญชาให้กรมจเรทหารราบวางโครงการที่จะจัดตั้งกองพันทหารพลร่มขึ้น
25 มกราคม 2495
ซึ่งเป็นวันกองทัพบกไทย ได้จัดให้มีการแสดงแสนยานุภาพ และสมรรถภาพของหน่วยทหารเหล่าต่าง
ๆ ในกองทัพบกที่บริเวณสนามราชตฤณมัยสมาคม จังหวัดพระนคร ในงานนี้กรมจเรทหารราบ
ได้จัดกำลังทหารพลร่มขึ้น 1 หมวด แสดงการกระโดดร่มให้ประชาชนได้ชมต่อหน้าพระพักตร์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ นับเป็นครั้งแรกที่มีการกระโดดร่มเป็นหน่วยทหารในประเทศไทย
19 พฤศจิกายน 2495 กรมจเรทหารราบ ได้ปรับเป็นกรมการทหารราบ กับได้ดำเนินการทางวิทยาการของเหล่าทหารราบเกี่ยวกับทหารพลร่มและการรบพิเศษทุกสาขา
โดยให้การฝึกและศึกษาเกี่ยวกับวิทยาการของหน่วยทหารส่งทางอากาศทั้งในทางยุทธวิธีและเทคนิค
ดังนั้น กรมการทหารราบจึงได้จัดตั้งกองโรงเรียนการรบพิเศษขึ้นเป็นโครงการของหน่วยกองพันพลร่มและให้เป็นหน่วยในอัตราของกรมนักเรียน
โรงเรียนทหารราบ กรมการทหาราบ โดยมีหน้าที่ดำเนินการฝึกในเรื่องการกระโดดร่ม
การพับร่ม การปฏิบัติการรบบนภูเขา การรบในป่าชั้นสูง การรบสะเทินน้ำสะเทินบก การต่อสู้ป้องกันตัว
และการฝึกพลศึกษา โดยที่สหรัฐอเมริกาได้ให้การช่วยเหลือทางการทหารและสนับสนุนครูชาวอเมริกัน
(Joint
United States Military Advisory Group, Thailand: JUSMAGTHAI) เพื่อให้คำแนะนำการฝึก
กองทัพบกเข้ารับผิดชอบการฝึก
15 กุมภาพันธ์ 2496 กรมการทหารราบได้รับโอนโรงเรียนการฝึกอาวุธพิเศษจากกรมตำรวจ
ดังนั้น กรมการทหารราบจึงให้กองโรงเรียนการรบพิเศษใช้อาคารสถานที่เดิมของโรงเรียนการฝึกอาวุธพิเศษกรมตำรวจและได้เรียกพื้นที่การฝึกนี้ว่า
“ค่ายเอราวัณ”
กรกฎาคม 2496 กรมการทหารราบได้เปิดการศึกษา เพื่อคัดเลือกนายทหารชั้นสัญญาบัตร นายทหารชั้นประทวน และพลทหาร บรรจุเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ ครู และเจ้าหน้าที่ในหน่วยทหารพลร่ม เป็นรุ่นที่ 1 การฝึกนี้ยังไม่มีการเรียกชื่อหลักสูตรเป็นทางการ (ต่อมาเรียกหลักสูตรทหารร่มและการรบพิเศษ) โดยมี กองโรงเรียนการรบพิเศษ ดำเนินการฝึกและเนื่องจากเป็นการจัดและดำเนินการฝึกครั้งแรก ระเบียบแบบธรรมเนียม แถลงหลักสูตร หลักฐานและคู่มือคงมีแต่เฉพาะการฝึกโดดร่มและการพับร่ม (Airborne Course) ส่วนการฝึกการรบบนภูเขา การรบในป่าชั้นสูง และการฝึกรบสะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งเรียกรวมว่าการฝึกเรนเจอร์ (Ranger Course) ยังไม่มีหลักฐานคู่มือและการฝึกเรนเจอร์ให้เรียกเป็นภาษาไทยว่าฝึกการรบพิเศษไปก่อน เนื่องจากยังหาคำเรียกที่เหมาะสมไม่ได้
การฝึกทหารร่มและการรบพิเศษนี้ เมื่อฝึกนักเรียนโดดร่มจากเครื่องบินจริงแล้วจะต้องนำนักเรียนไปฝึกภาคสนามในป่าโดยการโดดร่มลง
เรียกการฝึกภาคสนามนี้ว่า การฝึกรบในป่าซึ่งอาศัยแนวทางการฝึกหลักสูตรการรบในป่าของอังกฤษและหลักสูตรการรบแบบจู่โจมของสหรัฐอเมริกา
(สหรัฐอเมริกาเริ่มเปิดการฝึกหลักสูตรเรนเจอร์ เมื่อ 2 กันยายน 2493 และ ทบ.ไทย ส่ง
ร.ท. เทียนชัย ศิริสัมพันธ์ ไปรับการฝึก ณ ศูนย์การทหาราบ Fort Benning (เปลี่ยนชื่อเป็น Fort Moore) สหรัฐอเมริกา เมื่อ
พ.ศ.2496 และกลับมาเป็นอาจารย์ฝึกสอน ณ รร.ร.ศร.) (หนังสือทหารพลร่ม รุ่นที่ 6
รร.ร.ศร. พ.ศ.2498)
![]() |
| เครื่องหมายเชิดชูเกียรติแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่ม |
กำเนิดกองพันนักเรียนการรบพิเศษ
แผนกวิชาการรบพิเศษ กองพันพลร่ม เหล่าพลร่ม
10 มิถุนายน 2497 กรมการทหารราบ
ได้แปรสภาพเป็น ศูนย์การทหารราบ (ศร.) และ เมื่อ 24 กันยายน 2497
กองโรงเรียนการรบพิเศษ ได้รับการจัดอัตราใหม่ เป็น กองพันนักเรียนการรบพิเศษ
กรมนักเรียน โรงเรียนทหารราบ (พัน.นร.รพศ. กรม นร.รร.ร.ศร.) มีภารกิจในการฝึกโดดร่มและการรบพิเศษเช่นเดิม
และศูนย์การทหารราบ ได้ขยายกองการศึกษา โรงเรียนทหารราบ โดยจัดให้มีแผนกวิชาการรบพิเศษ
กองการศึกษา โรงเรียนทหารราบ (แผนก รพศ.กศ.รร.ร.ศร.)
กับให้เป็นหน่วยฝึกสอนหลักสูตร การรบในป่าและส่งกำลังทางอากาศ รวมทั้งหลักสูตรพิเศษอื่น
ๆ ตามที่โรงเรียนทหารราบ กำหนด ครั้นต่อมาในปี พ.ศ.2499 สภาโรงเรียนทหารราบได้กำหนดให้
แผนกวิชาการรบพิเศษ ทำการฝึกโดดร่มและการรบพิเศษแทนกองพันนักเรียนการรบพิเศษ
และให้กองพันนักเรียนการรบพิเศษ ดำเนินการปกครองนักเรียน บริการและสนับสนุนกำลังพลในการฝึกหลักสูตรดังกล่าว
พ.ศ.2497 นี้ กระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่ง
เฉพาะที่ 46/12692 ลง 4 มิถุนายน 2497 ให้จัดตั้งกองพันพลร่มเป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่
1 ซึ่งนับว่าเป็นหน่วยทหารพลร่มที่สมบูรณ์หน่วยแรกของกองทัพบกใทย
กับมีคำสั่งให้ตั้งเหล่าทหารพลร่มขึ้นในกองทัพบกอีกเหล่าหนึ่งมีผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ
เป็นหัวหน้าเหล่า (ตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการกำหนดหน้าที่ส่วนราชการในกองทัพบก
พ.ศ.2501 ข้อ 27)
กห. ได้ออกคำสั่งให้ พัน.นร.รพศ. กรม
นร.รร.ร.ศร. และ แผนก รพศ.กศ.รร.ร.ศร. มีสิทธิ์ประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษด้วยสายยงยศไหมสีแดง
เนื่องจากเป็นหน่วยฝึกทหารร่มซึ่งถือว่าเป็นเหล่าทหารพลร่มด้วย (ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม
ที่ 287/26997 เรื่อง การประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษเพิ่มเติม สั่ง ณ
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2497)
การฝึกโดดร่มและการรบพิเศษในรุ่นที่ 2, 3
และรุ่นที่ 4 ฝึกโดยครูทหารสหรัฐอเมริกา มีนายทหารชั้นสัญญาบัตร นายทหารชั้นประทวน
และพลทหาร สำเร็จการศึกษาบรรจุลงในหน่วยฝึกทหารพลร่ม (พัน.นร.รพศ. กรม นร.รร.ร.ศร.
และแผนก รพศ.กศ.รร.ร.ศร.) และบรรจุลงในหน่วยทหารพลร่ม (กองพันพลร่ม ทภ.1) การฝึกโดดร่มและการรบพิเศษในรุ่นที่
5 (พ.ศ.2497) ฝึกโดยครูทหารไทย การฝึกโดดร่มและการรบพิเศษในรุ่นที่ 6 (พ.ศ.2498)
จนถึงรุ่นที่ 14 (พ.ศ.2507) ฝึกให้นายทหารชั้นนสัญญาบัตร
นายทหารชั้นประทวนทั่วไป รวมทั้งพลทหารที่จำเป็นบรรจุในหน่วยทหารพลร่ม การฝึกใช้ระยะเวลาและขอบเขตการสอนเช่นเดียวกับที่ใช้สอนในโรงเรียนทหารราบของสหรัฐอเมริกาส่วนการเรียกชื่อหลักสูตรทหารร่มและการรบพิเศษอย่างเป็นทางการ
เริ่มขึ้นในรุ่นที่ 8
หลักสูตรการรบแบบจู่โจม
เนื่องจากการฝึกโดดร่มและการรบพิเศษได้ฝึกควบคู่กัน
แต่มีความจำเป็นต่อการใช้งานในภารกิจเฉพาะต่างกัน ดังนั้นในปี พ.ศ. 2502
จึงได้แยกเปิดการศึกษาเฉพาะหลักสูตรการรบพิเศษ (Ranger Course) และเปลี่ยนชื่อเรียกจากหลักสูตรการรบพิเศษ
(Ranger Course) เป็นหลักสูตรการรบแบบจู่โจม (Ranger
Course) ซึ่งขณะนั้นได้จัดทำหลักฐานและคู่มือการฝึกเสร็จแล้ว
และในปี พ.ศ.2505 จึงได้เปิดการศึกษาหลักสูตรทหารร่มหรือหลักสูตรโดดร่มหรือหลักสูตรส่งทางอากาศ
(Airborne Course) การฝึกหลักสูตรการรบแบบจู่โจม เริ่มเมื่อ 11
กุมภาพันธ์ 2502 นับเป็นรุ่นที่ 1 และได้ดำเนินการฝึกจนถึงปี พ.ศ.2509 รามจำนวน 16
รุ่น ส่วนการฝึกหลักสูตรโดดร่มนั้นเริ่มเมื่อ 17 ธันวาคม 2505 นับเป็นรุ่นที่ 1
และได้ดำเนินการฝึกจนถึงปี พ.ศ.2509 รวมจำนวน 13 รุ่น
![]() |
| เครื่องหมายเชิดชูเกียรติแสดงความสามารถการรบแบบจู่โจม |
พ.ศ. 2506 กองพันพลร่มได้แปรสภาพและขยายขึ้นเป็นกองรบพิเศษ
(พลร่ม)
8 พฤศจิกายน 2506 ทบ. ให้ ศร. ปิดการบรรจุกำลังพลในอัตราของ พัน.นร.รพศ.
กับให้ พัน.นร.รพศ. กรม นร.รร.ร.ศร. ใช้อัตราการจัด และยุทโธปกรณ์ กองพันส่งทางอากาศ
(พัน.สอ.) หมายเลข 57-15 ลง 1 ธันวาคม 2504 โดยให้ปฏิบัติการกิจเดิมเป็นหลัก
ส่วนการกิจรองให้ทำการฝึกเป็นหน่วยตามภารกิจของ พัน.สอ. ให้มากที่สุด
โดยใช้กำลังพล พัน.นร.รพศ. กรม นร.รร.ร.ศร. บรรจุลงในตำแหน่งต่าง ๆ ไว้ในขั้นต้น
กองพันส่งทางอากาศที่
1 และการมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษ
ต่อมาเมื่อ 23 เม.ย. 2507 ทบ. ให้ พัน.นร.รพศ.
กรม นร.รร.ร.ศร. เปลี่ยนชื่อเป็น กองพันส่งทางอากาศที่ 1 (พัน.สอ.ที่ 1)
เป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกและฝากการบังคับบัญชาไว้กับ ศร. มีที่ตั้งหน่วย ณ
ค่ายเอราวัณเดิม กับให้ปกครองและสนับหนุนการฝึกหลักสูตรทหารร่มและการรบพิเศษ หลักสูตรการรบแบบจู่โจม
หลักสูตรโดดร่ม (ส่งทางอากาศ) และหลักสูตรพิเศษอื่น ๆ ตามที่ รร.ร.ศร. มอบหมาย
ในห้วงปี พ.ศ.2507 ทบ. ได้ออกระเบียบ ว่าด้วยการมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษให้กับชาวต่างประเทศ
ซึ่งร่วมปฏิบัติงานและทำคุณประโยชน์ให้แก่หน่วยที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษ
โดยหน่วยเกี่ยวข้องกับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษตามระเบียบกำหนด รายงานผลการปฏิบัติหรือคุณงามความดีของชาวต่างประเทศดังกล่าว
พร้อมทั้งขออนุมัติมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนั้นขึ้นไปตามสำดับ
จนถึงผู้บังคับบัญชาทหารบก เว้นแต่ในกรณีเร่งด่วน ให้ผู้บังคับหน่วยที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษ
พิจารณาอนุมัติผู้ที่อยู่ในหลักเกณฑ์ และมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนั้นไปก่อน
แล้วรายงานผู้บัญชาการทหารบกทราบโดยด่วน
และให้โรงเรียนของหน่วยที่ทำการฝึกหรือให้การศึกษา
ซึ่งผู้รับการฝึกหรือเข้ารับการศึกษา เมื่อสำเร็จแล้วมีสิทธิใช้เครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษตามระเบียบนี้จัดทำประกาศนียบัตรพิเศษขึ้นเพื่อประกาศให้ทราบว่าชาวต่างประเทศนั้นได้รับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษ
และให้มอบประกาศนียบัตรนี้พร้อมกับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนั้นด้วย
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว รร.ร.ศร. เป็นหน่วยเกี่ยวข้องและดำเนินการโดยตรง
ย้ายที่ตั้งศูนย์การทหารราบและกำเนิดศูนย์สงครามพิเศษ
เมื่อ พ.ศ.2509 ทบ.
ได้แปรสภาพศูนย์ฝึกกำลังทดแทน ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงให้
ศร. ย้ายจากค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไปเข้าที่ตั้งแห่งใหม่ ณ ค่ายธนะรัชต์
อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2510
เมื่อ 27 กรกฎาคม 2509
กองทัพบกได้จัดตั้ง ศูนย์สงครามพิเศษ (ศสพ.) ขึ้น เพื่อภารกิจดำเนินการสงครามพิเศษ
และให้ศูนย์สงครามพิเศษใช้พื้นที่เดิม ณ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชต่อไป และเมื่อ
30 กันยายน 2509 ทบ. ให้ พัน.สอ.ที่ 1 เป็นหน่วยประกอบกำลังของ ศสพ. กับให้กองรบพิเศษ
(พลร่ม) ขึ้นการบังคับบัญชาต่อ ศสพ. ด้วย
เมื่อ 12 ธันวาคม 2509 ทบ. พิจารณาว่า
ศร. เปิดการศึกษาหลักสูตรการรบแบบจู่โจม หลักสูตรส่งทางอากาศ (เดิมเรียกหลักสูตรโดดร่ม)
และหลักสูตรพลร่มสำรองโดยต่อเนื่อง ถ้างดการฝึกจะทำให้การพัฒนาประสิทธิภาพ ความสามารถของกำลังพลชะงัก
และจะเกิดความคับคั่งตกค้างเป็นจำนวนมาก ประกอบกับหลักสูตรดังกล่าวมีความจำเป็นยิ่งต่อการปฏิบัติภารกิจทางทหาร
และเนื่องจากกำลังพล ศสพ. ได้ผ่านการฝึกหลักสูตรการรบแบบจู่โจมและหลักสูตรส่งทางอากาศจาก
ศร. มาแล้ว ทบ. เห็นว่ามีความสามารถที่จะฝึกสอนหลักสูตรดังกล่าวแทน ศร. ได้
ดังนั้น ทบ. จึงสั่งการให้ ศร. โอนภารกิจในการเปิดการศึกษา หลักสูตรการรบแบบจู่โจมและหลักสูตรส่งทางอากาศ
ประจำปีการศึกษา 2510 ของ ศร. ให้ ศสพ. ดำเนินการ และเพื่อมิให้ขัดแย้งกับระเบียบคำสั่งต่าง
ๆ ของกองทัพบกที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและสิทธิของบุคคลจากการศึกษาในหลักสูตรการรบแบบจู่โจมและหลักสูตรส่งทางอากาศ
ซึ่งกำหนดให้เป็นหน้าที่ของ ศร. ดังนั้นเมื่อโอนภารกิจให้ ศสพ.
ดำเนินการเปิดการศึกษาในหลักสูตรการรบแบบจู่โจมและหลักสูตรส่งทางอากาศ
ประจำปีการศึกษา 2510 ของ ศร. แล้ว คงให้ ศร. แต่งตั้งกรรมการหรือคณะกรรมการร่วมด้วย
ส่วนในแผนการศึกษาประจำปี 2511 สำหรับหลักสูตรการรบแบบจู่โจมและหลักสูตรส่งทางอากาศ
ทั้งสิ้นให้ ศสพ. เป็นผู้รวบรวมและจัดทำเสนอ ยศ.ทบ.
จนกว่า ศร. จะเข้าที่ตั้งหน่วยใหม่ จัดระเบียบจัดสร้างเครื่องช่วยฝึกต่าง ๆ
เสร็จเรียบร้อย จึงจะเริ่มดำเนินการฝึกหลักสูตรการรบแบบจู่โจมและหลักสูตรส่งทางอากาศต่อไป
(ตามหนังสือ ยก.ทบ. ที่ กห 0317/10028 ถึง 12 ธันวาคม 2509)
กฎกระทรวงกลาโหม (พ.ศ.2511)
ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายแบบทหาร พ.ศ. 2477 ว่าด้วย
เครื่องแบบทหารอากาศ ฉบับที่ 13 ข้อ 32 ซึ่งให้ไว้ ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2511 กล่าวสรุปไว้ว่าทหารซึ่งสำเร็จการศึกษาหลักสูตรการรบแบบจู่โจมของศูนย์การทหารราบ
กรมยุทธศึกษาทหารบก (ยศ.ทบ.) หรือของต่างประเทศที่ศูนย์การทหารราบ
กรมยุทธศึกษาทหารบก พิจารณาแล้วเห็นว่ามีมาตรฐานเทียบเท่าใช้เครื่องหมายทหารจู่โจมติดที่อกเสื้อข้างขวาเหนือกลางกระเป๋า
ต่อมา พ.ศ. 2513 ทบ. ได้อนุมัติให้ ศร.
เปิดการศึกษาหลักสูตรการรบแบบจู่โจมเฉพาะเหล่าทหารราบ และไห้ ศม. เปิดการศึกษาหลักสูตรการรบแบบจู่โจมเฉพาะเหล่าทหารม้า
แต่ต่างเหล่าก็สามารถฝากเข้ารับการศึกษาได้ ดังนั้น การฝึกหลักสูตรการรบแบบจู่โจม
จึงมีหน่วยผลิตรวม 3 หน่วยด้วยกัน
เมื่อ 27 กรกฎาคม 2515 ผบ.ทบ. อนุมัติให้บรรจุกำลังพลใน พัน.นร.รพศ. กรม
นร.รร.ร.ศร. โดยใช้อัตราการจัดและมีภารกิจเดิม ก่อนการปรับเป็น อจย. พัน.สอ. 57-15
เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2506
การประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มและทหารจู่โจม
สำหรับนายทหารชั้นผู้ใหญ่
ในปี พ.ศ.2515 ศสพ. ได้รายงานขออนุมัติ ทบ. เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การขออนุมัติให้นายทหาร
ประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มและทหารจู่โจม
สำหรับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ซึ่งมียศตั้งแต่ พลตรี (พล.ต.) ขึ้นไป โดย กรมกำลังพลทหารบก
(กพ.ทบ.) และ ศสพ. มีความเห็นร่วมกันว่าเรื่องนี้ยังมิได้กำหนดหลักเกณฑ์ขึ้นไว้แน่นอน
จึงสมควรที่จะได้กำหนดแนวทางปฏิบัติไห้ ศสพ. ซึ่งเป็นเสมือนหัวหน้าเหล่าสายวิทยาการทหารร่ม
และจู่โจม เพราะเป็นหน่วยผลิตกำลังพลประเภทนี้โดยเฉพาะ ได้เป็นผู้รับผิดชอบยึดถือปฏิบัติและพิจารณาดำเนินการให้บังเกิดความเป็นธรรมแก่กำลังพล
ในการขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชา
เพื่อมอบเครื่องหมายพร้อมทั้งจัดทำประกาศนียบัตรและประกอบพิธีมอบให้ในโอกาสอันสมควร
ส่วนหน่วยอื่น ๆ เมื่อพิจารณาเห็นว่าบุคคลใดมีคุณสมบัติเหมาะสมก็ให้เสนอ ศสพ. เป็นผู้พิจารณาดำเนินการต่อไป
ซึ่ง ทบ. ได้กรุณาอนุมัติให้ถือปฏิบัติตามแนวทางนี้ไปก่อนระยะหนึ่ง หากปรากฏว่าเหมาะสมดีแล้ว
จึงจะได้กำหนดขึ้นเป็นระเบียบ ทบ. ในโอกาสต่อไป ต่อมาในปี 2520 ศสพ. ได้รายงาน ทบ.
ขอแก้ไขคุณสมบัติของผู้ที่สมควรจะได้รับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษจากเดิมยศ
พล.ต. ขึ้นไป แก้เป็นยศ ตั้งแต่ พันเอก (พ.อ.) ขึ้นไป
กำเนิด
ร.31 พัน.3 รอ.
เมื่อ 2 ธันวาคม 2521 ทบ. ให้ ศสพ. โอน พัน.สอ.ที่ 1 ให้ ผส. 31 พล. 1 รอ.
เนื่องจาก ทบ. ต้องการจัดตั้งกองพันส่งทางอากาศโดยสมบูรณ์ เพื่อเป็นหน่วยโครงของกำลังประเภททหารราบส่งทางอากาศ
ซึ่งจะขยายขึ้นในอนาคตและจะให้มีภารกิจเป็นกำลังกองหนุนเคลื่อนที่เร็วของ
ทบ. ในการสถาปนาความพร้อมรบ สำหรับเตรียมเผชิญเสถานการณ์จากการคุกคามของฝ่ายตรงข้ามทั้งภายในและภายนอกประทศ
โดยมี ศร. เป็นหน่วยรับผิดชอบทางด้านวิทยาการทหารราบส่งทางอากาศ ปัจจุบัน พัน.สอ.ที่
1 คือ ร.31 พัน.3 รอ. (อจย. 7 - 15 ลง 2 ส.ค. 26)
การแบ่งมอบความรับผิดชอบระหว่าง
ศร. และ ศสพ.
![]() |
| เมษายน 2526 การฝึกหลักสูตรส่งทางอากาศรุ่นที่ 145 ศสพ. |
เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2528 ผบ.ทบ. ได้อนุมัติในหลักการให้ ศร. เปิดการศึกษาหลักสูตรส่งทางอากาศ
สำหรับกำลังพลเหล่า ร. สำหรับหน่วยใช้ร่มและนักศึกษาวิชาทหารที่กรมการรักษาดินแดนผลิต
เพื่อให้ตรงเหล่าสายวิทยาการที่รับผิดชอบ โดยให้หน่วย เหล่า และสายวิทยาการที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
เพื่อให้การสนับสนุนต่อไป กับให้ ศร. และ ยศ.ทบ. เสนอเข้าแผนงานศึกษาตามหลักสูตรประจำปี
ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2529 เป็นต้นไป ตามหนังลือ ยก.ทบ. ที่ กห 0403/1553 ลง 22 กุมภาพันธ์
2528
แผนกวิชาการจู่โจมและส่งทางอากาศและกองพันนักเรียนการจู่โจมและส่งทางอากาศ
![]() |
| แผนกวิชาการจู่โจมและส่งทางอากาศ ศร. |
![]() |
| สัญลักษณ์กองพันนักเรียนการจู่โจมและส่งทางอากาศ ศร. |
![]() |
| กำลังพลแผนกวิชาการจู่โจม ฯ และกองพันนักเรียนการจู่โจม ฯ ศร. พ.ศ.2533 |
เมื่อ 11 มิถุนายน 2541 ศร. ได้รายงาน ยศ.ทบ.ตามหนังสือ ศร.ที่ กห 0461.1/2359 ขอให้ ศร. เป็นหน่วยหนึ่งที่มีสิทธิรายงานขออนุมัติมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มและทหารจู่โจมกิตติมศักดิ์เช่นเดียวกับ ศสพ. เนื่องจากเป็นหน่วยสายวิทยาการและให้การศึกษาของเหล่าทหารราบ และเป็นหน่วยฝึกหลักสูตรการรบแบบจู่โจมและหลักสูตรส่งทางอากาศ ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเพิ่มความชำนาญการทางทหารให้กำลังพลเหล่าทหารราบ หรือเหล่าที่ทำการบแบบทหารราบ หรือรบร่วมทหารราบในสงครามตามแบบ ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติการรบภายใต้สภาพพิเศษ อาทิเช่น การยุทธส่งทางอากาศ, การยุทธเคลื่อนที่ทางอากาศ, การยุทธในพื้นที่ป่าภูเขา, การยุทธบริเวณลุ่มน้ำ, การยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก, การยุทธข้ามลำน้ำ, การยุทธบริเวณป้อมค่าย เป็นตัน การรบภายใต้สภาพพิเศษนี้ ทหารราบจำเป็นต้องได้รับการฝึกให้มีความชำนาญการทางทหารมากยิ่งขึ้น ต่อมา ยศ.ทบ. ได้รายงาน ทบ. ตามหนังสือ ยศ.ทบ.ที่ กห 0461.1/2807 ลง 13 กรกฎาคม 2541 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
กพ.ทบ. ได้เสนอเรื่องตามที่ ยศ.ทบ. รายงานให้ ยก.ทบ. พิจารณาร่วม และ ยก.ทบ. เห็นว่ามีเหตุผลสมควรที่จะรายงานขออนุมัติเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ให้ ศร. เป็นหน่วยรับผิดชอบในการพิจารณารายงานขออนุมัติเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษอีกหน่วยหนึ่ง กับมีความเห็นเพิ่มเติมว่าควรให้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ซึ่งเป็นสายวิทยาการของหน่วยใช้ร่มได้รับทราบด้วย เนื่องจาก ศร. มิใช่หน่วยใช้ร่มทั้งหน่วย และ กพ.ทบ. ขอให้ ยก.ทบ. วินิจฉัยว่าหน่วยใดเป็นหัวหน้าสายวิทยาการของทหารร่มและทหารจู่โจม ยก.ทบ. วินิจฉัยว่า นสศ. เป็นหัวหน้าสายวิทยาการทางด้านการใช้ร่มของ ทบ. และปัจจุบัน ศร. เป็นหน่วยหลักรับผิดชอบดำเนินการฝึกหลักสูตรการรบแบบจู๋โจม ในขณะเดียวกัน กพ.ทบ. ได้เสนอเรื่องตามที่ ยศ.ทบ. รายงาน ทบ. เพื่อให้ นสศ. พิจารณาความเหมาะสมและเสนอแนะความคิดเห็น
ซึ่ง นสศ. เห็นไม่สมควรให้มีหน่วยใดในสายวิทยาการเดียวกันมาร่วมพิจารณารายงานขออนุมัติ
เพื่อมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษ เพราะจะทำให้ไม่เป็นเอกภาพ เกิดความยุ่งยากซ้ำซ้อน
ประกอบกับคุณสมบัติของผู้ที่สมควรได้รับมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษ (นักโดดร่มชั้นกิตติมศักดิ์)
จะต้องเป็นผู้มีพันธกรณียกิจร่วมกับทหารร่มและทหารจู่โจม ในการปฏิบัติทางยุทธวิธีเป็นเวลานานพอสมควร
และยังเกิดผลดีแก่ทางราชการหรือเป็นผู้ที่ได้ประกอบคุณงามความดีแก่ทางราชการ โดยให้การสนับสนุน
ช่วยเหลือกิจการของทหารร่มและทหารจู่โจมให้เจริญขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ปัจจุบัน
ศร. มิใช่เป็นหน่วยใช้ร่ม จึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นหน่วยพิจารณามอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มกิตติมศักดิ์
ในข้อพิจารณาของ กพ.ทบ. เห็นว่า ศร. ซึ่งเป็นหน่วยสายวิทยาการของเหล่า ร. ปัจจุบัน
หน่วยรับผิดชอบการฝึกสอนหลักสูตรการรบแบบจู่โจมเพียงหน่วยเดียวของ ทบ.
และโดยที่หลักสูตรการรบแบบจู่โจมเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการรบตามแบบและเป็นหลักสูตรพื้นฐานของเหล่า
ร.
จึงสมควรเป็นผู้รับผิดชอบพิจารณารายงานชออนุมัติมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษทหารจู่โจมกิตติมศักดิ์
และประกาศนียบัตรประกอบเครื่องหมายดังกล่าว ส่วน นสศ. เป็นหน่วยวิทยาการด้านการใช้ร่มของ
ทบ. ตามข้อวินิจฉัยของ ยก.ทบ. จึงสมควรให้เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณารายงานขออนุมัติมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มกิตติมศักดิ์และสายยงยศไหมสีแดง
กับประกาศนียบัตรประกอบเครื่องหมายดังกล่าว รายละเอียดตามหนังสือ กพ.ทบ. ที่ กห 0401/14645
ลง 24 ธันวาคม 2541 เรื่อง
การขออนุมัติพิจารณามอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษกิตติมศักดิ์
บทสรุป
ปัจจุบันกองทัพบกได้อนุมัติหลักการให้
ศร. เป็นหน่วยสายวิทยาการที่รับผิดชอบในการให้การฝึกศึกษาหลักสูตรทำรบแบบจู่โจมเพียงหน่วยเดียว
กับเพื่อให้ตรงหน่วยสายวิทยาการที่รับผิดชอบในส่วนอัตราการจัดและยุทโธปกรณ์
กองพันส่งทางอากาศ ซึ่ง ศร. เป็นหน่วยสายวิทยาการของเหล่า ร. กองทัพบกจึงให้ ศร.
เปิดการศึกษาหลักสูตรส่งทางอากาศ สำหรับกำลังพลเหล่า ร. สำหรับหน่วยใช้ร่ม
และนักศึกษาวิชาทหารที่กรมการรักษาดินแดนผลิต ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวมีความมุ่งหมายเพื่อให้ได้มาตรฐานการฝึกเดียวกันทั้งกองทัพบก
และประการสำคัญที่สุด หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเพิ่มความชำนาญทางทหารให้กำลังพลเหล่าทหารราบ
หรือเหล่าที่ทำการรบแบบทหารราบหรือรบร่วมทหารราบในสงครามตามแบบ ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติการรบภายให้สภาพพิเศษ
อาทิเช่น การยุทธส่งทางอากาศ การยุทธเคลื่อนที่ทางอาทาศ การยุทธในพื้นที่ป่าภูเขา
การยุทธบริเวณลุ่มน้ำ การยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การยุทธข้ามลำน้ำและการยุทธบริเวณป้อมค่าย
เป็นต้น การรบภายใต้สภาพพิเศษนี้ ทหารราบจำเป็นต้องได้รับการฝึกให้มีความชำนาญมากยิ่งขึ้น
หน่วยและเหล่าอื่น ๆ ที่ต้องปฏิบัติการรบแบบทหารราบ หรือรบร่วมกับทหารราบ จึงควรได้เรียนรู้และรับการฝึกหลักสูตรดังกล่าวจาก
ศร. ซึ่งเป็นหน่วยสายวิทยาการของเหล่าทหารราบโดยเฉพาะ
--------------------------------------------------------
ข้อมูลเพิ่มเติม
1. SEA Supply* : หน่วยงานการข่าวของสหรัฐอเมริกา
(CIA) ในนามของพลเรือนคือ บริษัท SEA Supply (Southeast Asia Supply) โดยเป็นที่รู้กันอย่างลับๆ ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
เพื่อเป้าหมายในการป้องกันและหยุดยั้งการแผ่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่กำลังเข้ามาสู่ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย
ด้วยการมาสร้างกำลังกองโจรทำการรบนอกแบบเพื่อเป็นกำลังของฝ่ายสหรัฐอเมริกา (Non-American forces) ในการต่อต้านการแผ่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์
คือต้องสร้างหน่วยที่คล่องตัวให้ทำการรบนอกแบบและมีขีดความสามารถโดดร่มได้
ซึ่งโครงการนี้ทางสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนและออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
2. โรงเรียนกำพร้าสงคราม** :
ที่มาของโรงเรียนเกิดขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2487 เครื่องบินของสหรัฐอเมริกาบินมาทิ้งระเบิดในไทยเพื่อทำลายกำลังทหารญี่ปุ่น
ราษฎรไทยย่ำแย่ ต้องวิ่งลงหลุมหลบภัย และบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมาก
ที่ไม่ตายกลายเป็นเด็กอนาถา คนแก่อนาถามากมาย จึงเกิดหน่วยงานสงเคราะห์ขึ้นมาเมื่อ ภายหลังจากการยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 นโยบายรัฐบาลจอมพล ป.
เกี่ยวกับสังคมสงเคราะห์และประชาสงเคราะห์ จอมพล ป. จึงตั้ง โรงเรียนสงเคราะห์ชื่อโรงเรียน
"กำพร้าสงคราม" หรือ "ลูกกำพร้าสงคราม" ขึ้นที่ที่ตั้ง ค่ายเอราวัณ อ.เมืองลพบุรี
จ.ลพบุรี ปัจจุบัน ต่อมา พ.ศ. 2496 ระหว่างสงครามลับในลาว
สำนักข่าวกรองกลาง สหรัฐอเมริกา (Central Intelligence Agency (CIA)) ตั้งโรงเรียนฝึกอาวุธพิเศษให้กรมตำรวจก่อนเพราะเป็นกำลังกึ่งทหาร
โดยใช้สถานที่ตั้งของโรงเรียน "กำพร้าสงคราม" หรือเป็นค่ายฝึก
3. มาร์ชทหารพลร่ม *** จากจินตนาการของ
พันตรี เสรี บุญชูวิทย์
อดีตทหารพลร่มป่าหวาย พลร่มรุ่นที่ 4 และประพันธ์ทำนอง โดย ครูนารถ ถาวรบุตร แห่ง กรมประชาสัมพันธ์ ใน
พ.ศ. 2498
“เหล่าพลร่ม
สืบเนื่องมาจากทหารพราน
จากฟ้าทะยาน
ลงสู่ที่หมาย พิฆาตไพรี
อันความตายมิได้เคยไหวหวั่น
ดวงชีวันนั้นเรายอมพร้อมกับพลี
เหมือนดังพญาปักษี
ล้วนแรงฤทธี
ฝีมืออันเกรียงไกร (ซ้ำ)
น้ำใจดำรงคงมั่น
จะขอร่วมฟ้าสาบาน ฤทัยไม่หวั่น
รักมั่นชาติไทย
ชาติเกียรติวินัย
องอาจกล้าหาญ
ตราบชีวาแหลกลาญพร้อมหน้า
ทหารพลร่มฟันฝ่าไปทุกแห่งหนหมายผจญศัตรู
แม้ในกลางดงพันไพร
เปรียบเหมือนดังแดนศิวิไล
ฤทัยไม่หน่ายคล้ายอยู่พารา
ทั่วแดนพนา
เราฝ่าฟันไปด้วยดวงใจดั่งพรานหาญกล้า
คอยพิทักษ์ทั่วหล้า
ตราบดินสิ้นฟ้า
ปวงประชาชาวไทย
เอกราชยืนยง
ชั่วฟ้าดินดำรง ชาติไทยครอง
ปีกทองอันสามารถ
(ซ้ำ) แห่งทหารพลร่ม (ซ้ำ)
เหินลมลงสู่สมรภูมิ
พร้อมพรักสมัครมั่น
พลีแล้วด้วยใจจง
กระโดดลงร่วมกัน
เข้าประจันปัจจามิตรไป
ทุกทิศจนโลหิตทาบทา
อธิปไตยคง
สายยงยศเด่นภราดร ดังพี่น้องร่วมอุทร
เรานี้จะต่อกรจนมรณา
สีของมาลา เข้มแดงยิ่งกว่าเลือดนั้น
ดังเป็นสัญลักษณ์อัน
เก่งกล้าหาญชาญชัย”
4. รายนามผู้ดำรงตำแหน่งอาจารย์หัวหน้าแผนกวิชาการจู่โจมและส่งทางอากาศ ศูนย์การทหารราบ
1. พ.อ. การุณ บุญบันดาล 5 มีนาคม 2497 - 20 มีนาคม 2498
2. พ.อ. สนิท หวังเจริญ 21 มีนาคม 2498 - 25 มกราคม 2499
3. พ.อ. ประเสริฐ สาระพัฒน์ 26 มกราคม 2499 - 8 ธันวาคม 2517
4. พ.อ. ประเสริฐ พิบูลย์วงศ์ 9 ธันวาคม 2517 - 16 มีนาคม 2521
5. พ.อ. สนอง ทองเล็ก 17 มีนาคม 2521 - 20 มกราคม 2525
6. พ.อ. ฉาย จันทนะ 21 มกราคม 2525 - 10 สิงหาคม 2526
7. พ.อ. นพดล วรรธโนทัย 11 สิงหาคม 2526 - 15 เมษายน 2531
8. พ.อ. บุญยัง บูชา 14 เมษายน 2531 - 15 กุมภาพันธ์ 2534
9. พ.อ. จันทบูรณ์ วงษ์รัตนะ 15 กุมภาพันธ์ 2534 - 3 พฤษภาคม 2535
10. พ.อ. กานต์ สุมะโน 4 พฤษภาคม 2535 - 29 มิถุนายน 2536
11. พ.อ กิตดิศักดิ์ โยเหลา 30 มิถุนายน 2536 - 7 สิงหาคม 2539
12. พ.อ. ณรงค์ สุดประเสริฐ 8 สิงหาคม 2539 - 28 มิถุนายน 2542
13. พ.อ. องอาจ คุลี 29 มิถุนายน 2542 - 13 ธันวาคม 2544
14. พ.อ. นันทวัฒน์ ศรีสุพพัฒพงษ์ 14 ธันวาคม 2544 - 25 กันยายน 2546
15. พ.อ. ประสาร รวยดี 26 กันยายน 2546 - 20 ธันวาคม 2548
16. พ.อ. อาวุธ พุทธอำนวย 21 ธันวาคม 2548 - 26 สิงหาคม 2553
17. พ.อ. บรมเอก แก้วแดง 2 กันยายน 2553 - 14 มกราคม 2556
18. พ.อ. สุเมศ พูลมี 14 มกราคม 2556 - 28 สิงหาคม 2557
19. พ.อ. สิทธิศักดิ์ ธรรมเชื้อ 28 สิงหาคม 2557 - 14 กรกฎาคม 2558
20. พ.อ. มนตรี ธนาวรรณโอภาส 14 กรกฎาคม 2558 - 27 มกราคม 2559
21. พ.อ. สุทธิศักดิ์ พรรคเจริญ 26 เมษายน 2559 - 13 พฤศจิกายน 2560
22. พ.อ. สุริยา ฉิมพาลี 13 พฤศจิกายน 2560 - 24 เมษายน 2561
23. พ.อ. ชนรรค์ บุญนำ 24 เมษายน 2561 - 25 ตุลาคม 2561
24. พ.อ. ปณิธิ แดงชู 25 ตุลาคม 2561 - 8 พฤษภาคม 2562
25. พ.อ. สกล มหาลีวีรัศมี 8 พฤษภาคม 2562 - 27 ตุลาคม 2566
26. พ.อ. อานนท์ สายน้ำเขียว 27 ตุลาคม 2566 - ปัจจุบัน (18/3/67)
หลักฐานอ้างอิง
1. หนังสือทหารร่มและการบพิเศษ
รุ่นที่ 6 ,7, 8, 9 และรุ่นที่ 14 ห้องสมุดศูนย์การทหารราบ
2. ระเบียบกระทรวงกลาโหม
คำสั่งกระทรวงกลาโหม กฎกระทรวงกลาโหม คำสั่งกองทัพบก นโยบาย ผบ.ทบ.
ตามหนังสือที่อ้างถึง
3. แผนกวิชาการจู่โจมและส่งทางอากาศ โรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบ
ผู้รวบรวมและเรียบเรียง
พ.อ. ณรงค์ สุดประเสริฐ อจ.หน.แผนก จจ.สอ.
กศ.รร.ร.ศร. บันทึกเมื่อ 31 มี.ค.42
--------------------------------------------------------
ร.อ. เบญจพล รังษีภาณุรัตน์ อจ.แผนก จจ.สอ.กศ.รร.ร.ศร. 1 ต.ค.33
พิมพ์/ปรับแก้ไขเล็กน้อย 15 มี.ค.67
Edited #1 17 มี.ค.67 #2 18 มี.ค.67













ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น