03 กรกฎาคม 2567

การเตรียมตนก่อนเกษียณ โดย พ.อ.เบญจพล รังษีภาณุรัตน์ 26 ต.ค.58

26 ก.ย.65 พิธีอำลาชีวิตราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย
                 ระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2558) เพื่อนๆ จปร.32 หลาย ๆ คนได้เริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องเกษียณอายุราชการและการเข้าโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด เนื่องจากบางคนที่เป็นพันเอกพิเศษเริ่มเหลือเวลาอีกไม่ถึงสามปีก็จะอายุครบ  60 ปีกันแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะติดยศนายพลกับเขาได้อย่างไร และคิดว่าหากไม่มีโอกาสได้รับจากการปฏิบัติงานแน่แล้ว ก็จะขอทำด้วยตนเองเพื่อเป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูล ด้วยการเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดในปีหน้านี้ ซึ่งหมายความว่าจะเหลือเวลาเป็นทหารประจำการกันอีกไม่ถึงหนึ่งปีแล้ว(เร็วเหลือเชื่อว่าพวกเราทำงานกันมาคนละ 30 ปีแล้ว) ดังนั้น แม้ว่าผมจะอายุตอนนี้(เพียง) 53 ปีแก่ ๆ และไม่คิดเกษียณก่อนกำหนด แต่เนื่องจากห้าปีที่ผ่านมาบังเอิญมีประสบการณ์คล้ายกับการเตรียมตัวก่อนเกษียณอายุมาก่อน ก็เลยมีข้อแนะนำเพื่อความไม่ประมาทให้เพื่อน ๆ ที่สนใจที่จะเกษียณในปีหน้าหรือในปีต่อ ๆ ไปได้นำไปลองปรับใช้กันดูขณะที่ยังมีแรงและคนช่วยทำตามความเหมาะสมของสถานการณ์และปัจจัยที่แตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล เผื่อจะทำให้ชีวิตหลังจากเกษียณของตนเองมีความสุขเพิ่มขึ้นบ้าง ดังนี้.-

    1. การปลูกบ้าน การเป็นเจ้าของบ้านสักหลังเป็นลำดับแรก ๆ ที่มีความสำคัญมาก ใครที่เคยอยู่บ้านของหน่วยมาตลอดชีวิตต้องรีบตัดใจเดี๋ยวนี้ก่อนจะสายเกินไป เมื่ออายุปูนนี้แล้ว ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะมีบ้านของตนเองกันแล้ว ทั้งแบบเป็นของตนเองทั้งหมดหรือเป็นของธนาคารบางส่วน ในวัยก่อนเกษียณนั้นแทบทุกคนคงตัดสินใจได้แล้วว่าจะลงหลักปักฐานในวัยชรา ณ ที่แห่งใด แล้วต้องหาทางมีบ้านไว้สักหลังหนึ่งอาจจะเป็นการปลูกบ้านหรือซื้อสำเร็จก็ได้ จะปลูกที่บ้านเกิดที่ไม่ไกลชุมชนมากนัก หรือหากไม่เบื่อความจอแจก็ปลูกในกรุงเทพหรือปริมณฑลหรือเมืองใหญ่ได้จะดีมาก บ้านที่สร้างควรจะมีขนาดพอรับแขกห้าหกคนได้ในคราวเดียวกัน เนื่องจาก หลังเกษียณมีเวลาว่างมากขึ้นอาจจะชวนเพื่อน ๆ มาสังสรรค์คุยเรื่องความหลัง เสียงดัง เฮฮา ร้องเพลงให้เป็นที่รื่นรมย์ โดยประเด็นการปลูกบ้านนี้ สิ่งที่สำคัญมากคือ เราควรวางแผนผ่อนชำระค่าสร้างบ้านรวมเฟอร์นิเจอร์ให้หมดเรียบร้อยก่อนถึงวันเกษียณจะดีมาก ๆ

        2. กำหนดวันสุดท้ายของชีวิต เราควรคาดการณ์ว่าอายุของตนเองจะยืนยาวไปอีกกี่ปีหลังเกษียณก่อนจะต้องลาโลกอันสวยงามนี้ไป โดยประเมินตนเองจากสุขภาพ การใช้งานร่างกายของเราที่ผ่านมา และพันธุกรรมที่ได้รับมาจากพ่อแม่ เพื่อที่จะนำมาคำนวณเปรียบเทียบรายได้จากบำนาญแต่ละเดือนหลังเกษียณว่าจะเพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างมีเกียรติในสังคมวัยชราเพื่อมิให้ลำบากมากนัก เนื่องจากเงินเพิ่มต่าง ๆ จะต้องหายไป รวมทั้งรายได้พิเศษที่เคยได้รับจากหน่วยเป็นการสมนาคุณ เช่น เบี้ยเลี้ยง เบี้ยประชุม ฯลฯ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหลังจากเกษียณไปประมาณ 15 ปี ถ้ายังมีลมหายใจต่อ เงินบำนาญรายเดือนของเราอาจจะถูกเงินเฟ้อแซงจนมีค่าน้อยลงต่อการอยู่ในสังคมอย่างที่เคยเป็น ยกตัวอย่างนายทหารสัญญาบัตรวัยเราตอนยศพันโท เมื่อปี 2545 ได้รับเงินเดือนประมาณ 20,000 บาท อายุราชการ 25 ปี ลาออกตอนนั้นได้บำนาญประมาณ 12,000 บาท ผ่านไปแค่ 13 ปี พ.ศ.2558 เงินบำนาญที่ได้รับน้อยกว่าระดับปริญญาตรีจบใหม่เสียอีก ซึ่งคุณภาพการดำรงชีวิตหากไม่มีเงินอื่นมาเสริมบ้างคงจะลำเค็ญไม่น้อย และหากมีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็คงต้องวางแผนการลงทุนทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรายได้มาชดเชยบ้างเมื่อเวลาผ่านไป

        3. ทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ โดยทั่วไปชีวิตพวกเราตั้งแต่อายุ 16 ปี ก็ออกจากบ้านมาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร จบมาทำงาน แต่งงาน มีครอบครัว ปัจจุบันอายุ 53 – 57 ปี โดยไม่ค่อยมีโอกาสได้กลับไปตอบแทนผู้มีพระคุณของเรา คือ บิดา มารดา ซึ่งแม้ว่าส่วนหนึ่งได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว แต่คิดว่าหลายท่านยังคงมีชีวิตอยู่ ดังนั้น หากบิดา มารดาของใครยังอยู่ บุคคลนั้นก็ควรใช้โอกาสที่ยังมีเหลืออยู่หาหนทางที่เหมาะสมในการตอบแทนบุญคุณท่านบ้าง ไม่ใช่เพียงแค่ไปแวะหาเช้า สายกลับ เอาของไปฝากแล้วลา สำหรับชีวิตผมที่ผ่านมาทำงานส่วนใหญ่ที่กรุงเทพกับต่างประเทศได้ตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตกลับมาเพชรบุรีบ้านเกิดตอนอายุ 48 ปี เพื่อที่จะได้มาดูแลบิดามารดาที่อายุมากจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างใกล้ชิด โดยเมื่อกลับมาได้ปรับปรุงร้านค้าของบิดามารดาที่จำหน่วยสังฆภัณฑ์และบ้านพักอาศัยให้สวยงาม แข็งแรงและสะดวกมากขึ้น (ตรงนี้ใช้เงินของพ่อแม่นะ และโดนบ่นอยู่บ้างเนื่องจากใช้เงินมากไปหน่อย) และได้ดำเนินการก่อสร้างสถานที่บรรจุศพของตระกูลตามที่บิดาต้องการมานานจนสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน ซึ่งต้องอธิบายภรรยาให้เข้าใจ มิเช่นนั้นอาจเกิดปัญหาบ้านแตกตามมาได้

        4. การรักษาสุขภาพ ในห้วงสองสามปีที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินข่าวที่ทำให้ใจหายได้ คือ ข่าวเพื่อนเรา หรือภรรยาเพื่อนที่อายุใกล้เคียงกับเราได้เสียชีวิตด้วยอาการป่วยเจ็บ ซึ่งอันที่จริงจะถือเป็นเรื่องปกติก็ว่าได้เพราะการเสียชีวิตทำนองนี้เรียกว่ามีโอกาสอยู่บ้างเพียงแต่ไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ควรประมาทว่าจะไม่เกิดกับเรา ดังนั้น การรักษาสุขภาพจึงมีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน โดยในวัยขนาดนี้เราควรเข้ารับการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน เพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติภายในร่างกายเนื่องจากเมื่อเลยวัย 50 ปี นั้น สิ่งร้าย ๆ ที่สะสมมาในร่างกายของบางท่านอาจจะรวมกำลังแล้วแสดงผลร้ายออกมาได้ ซึ่งหากรู้แต่เนิ่นจะสามารถรักษาให้หายได้หรืออย่างน้อยก็แจ้งเตือนเจ้าตัวให้รักษาสุขภาพให้มากขึ้น อันจะเป็นการยืดอายุให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และหากโชคดีตรวจไม่พบสิ่งปกติในร่างกายก็ควรดำรงไว้ด้วยการหมั่นออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้งและให้เหงื่อออกในอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้เคยชินไว้หลังจากเกษียณแล้วจะได้ไม่ขี้เกียจ เอาแต่กินกับนอนซึ่งจะเป็นตัวเรียกโรคภัยต่าง ๆ ให้เรียงหน้าเข้ามา สำหรับผมออกกำลังกายด้วยการวิ่งให้ได้  4 กม. ต่อครั้ง ส่วนใหญ่จะวิ่งตอนเช้ารอบรอบบ้านหรือตามเส้นทางถนนที่รถไม่มากนัก บางครั้งก็มาวิ่งตอนเย็นที่สวนสุขภาพทำให้พบปะผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งที่เคยรู้จักและไม่รู้จักมาก่อน ซึ่งเป็นการสร้างสังคมใหม่ไปในตัว

        5. จัดทำบัญชีทรัพย์สิน เรื่องนี้ผมเคยคุยกับเพื่อน ๆ หลายคน แต่เกือบทั้งหมดมักตอบว่าไม่คิดทำเพราะมักคิดว่าตนเองไม่มีทรัพย์สินมีค่าอะไรมากมายหนักหนานัก ซึ่งเมื่อผมคุยกับใครแล้วได้คำตอบแบบนี้ผมก็จะบอกว่าให้ไปรวบรวมและจัดทำบัญชีทรัพย์สินลงรายละเอียดให้มากที่สุด ทั้งที่เป็นสินทรัพย์ของตนเองและภรรยา(เน้น)ก่อน แล้วจะต้องแปลกใจเพราะตอนนี้แต่ละคนเริ่มมีการสะสมทรัพย์หลากหลายรูปแบบที่มิใช่เงินสดมากขึ้น  รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้จะได้รับหลังเกษียณอายุไปแล้ว เพื่อให้ทราบว่าตนเองมีกำลังที่จะทำอะไรหลังเกษียณได้บ้าง เช่น ไปเที่ยวต่างประเทศ ส่งลูกเรียน ปลูกบ้านให้ลูก เป็นต้น โดยแยกออกเป็นหมวดหมู่ เช่น เงินสด ทองคำ กองทุน หุ้น เงินฝากธนาคาร อทบ. สหกรณ์ ที่ดิน รถยนต์ ลูกหนี้เงินยืม ทรัพย์สินเหล่านี้เมื่อเรารวบรวมและมีตัวเลขที่เป็นจริงหรือใกล้เคียงก็จะทำให้เราวางแผนการใช้เงินในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น และผลพลอยได้ที่ตามมานั้น คือ ทั้งเราและภรรยาจะทราบว่าอีกฝ่ายมีอะไรบ้างหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ฉับพลันทันด่วนขึ้นมาก็สามารถที่จะดำเนินการแทนได้ ซึ่งหากต่างคนต่างไม่จัดทำรายการไว้หรือปิดบังกันในบางรายการ เมื่อมีเหตุขึ้นมาจะทำให้ทรัพย์สินบางรายการตกเป็นของคนอื่นได้

        6. รายการหนี้สิน เรื่องหนี้สินหรือการที่เราเป็นลูกหนี้เป็นด้านตรงข้ามกับทรัพย์สินซึ่งอาจจะมีใกล้เคียงกันหรือต่างกันแบบฟ้ากับดิน แต่เท่าที่ทราบข่าวและประเมินกันน่าจะเกินครึ่งของพวกเราที่มีหนี้สินเป็นล้านบาทขึ้นไป โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้สินจากการกู้ธนาคารมาปลูกบ้านและผ่อนรถยนต์ อย่างไรก็ตาม หนี้สินของคนทั่วไปยังมีมากกว่านี้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น หนี้สินจากบัตรเครดิต หนี้จากเงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบ หนี้สินการผ่อนชำระสินค้า ซึ่งเราควรรวบรวมให้ได้ตัวเลขที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุดว่าเป็นเงินสักเท่าไร และหากเราเกษียณแล้วจะนำเงินก้อนที่ได้รับตอนเกษียณมาหักลบออกได้จนหมดหนี้ได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้ต้องเป็นภาระในภายภาคหน้าที่ชีวิตที่เหลืออาจไม่แน่นอน และหากรวมแล้วมีหนี้สินหลายล้านบาท ผมแนะนำให้ปรึกษาภรรยาหรือลูกที่มีรายได้ รวมทั้งญาติพี่น้องพ่อแม่หากยังเหลืออยู่ให้จัดการล้างหนี้ให้หมดก่อนเป็นพลเรือนเต็มขั้นหรือให้ใช้เวลาผ่อนหนี้หลังเกษียณสั้นที่สุด  

        7. จัดการเรื่องมรดกและทรัพย์สินของบิดามารดา ประเด็นนี้นับเป็นความโชคดีหากบิดามารดาไม่มีทรัพย์สินสักเท่าไรนัก หรือว่ามีลูกเพียงคนเดียว แต่หากไม่ใช่แล้วละก็ การเริ่มพูดถึงเรื่องนี้เป็นคนแรกอาจก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างพ่อแม่กับลูก หรือระหว่างพี่น้องด้วยกันเองแบบในละครน้ำเน่าได้ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง  อาจก่อเกิดปัญหาต่อเนื่องหากบิดามารดาจากไปก่อนโดยไม่เขียนพินัยกรรม หรืออาจทำให้ทรัพย์สินสูญหายได้ เช่น การที่บิดา มารดาให้คนอื่นยืมเงินเลขหลายหลักโดยไม่มีหลักฐานการกู้ยืม เป็นต้น ในส่วนตัวผมหลังจากที่พ่อแม่ผมอายุได้ 75 ปี และเห็นว่าลูก ๆ คงไม่มีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องการแบ่งทรัพย์สิน ท่านก็ดำเนินการจัดสรรทรัพย์สินหลัก ๆ ให้ทุกคนอย่างเหมาะสม และเก็บไว้ส่วนหนึ่งโดยสั่งให้ลูก ๆ ดำเนินการต่อหลังจากท่านจากไป ซึ่งผมเองก็ได้รับมอบหน้าที่ให้เป็นผู้จัดการมรดกหลังจากบิดาถึงแก่กรรม ในประเด็นนี้หากพิจารณาแล้วคุยกับภรรยาเข้าใจก็บอกให้ทางภรรยาดำเนินการให้เรียบร้อยเช่นเดียวกันก็ไม่เสียหายอะไร เพราะในที่สุดแล้วก็จะต้องถึงคิวเราที่จะต้องจัดสรรให้แก่ลูก ๆ ในโอกาสต่อไปอยู่ดี

        8. รถป้ายแดง หลังจากเกษียณแล้วรถลาม้าช้างต่าง ๆ ที่อาจเคยมีให้บริการจากหน่วยงานคงต้องส่งคืนให้เรียบร้อย รถส่วนตัวที่เราใช้อยู่ก็อาจจะเก่าหมดอายุใช้งาน ไปไหนไกลมากไม่ได้ หรืออาจไม่เหมาะสมกับการใช้งานของคนเกษียณที่ต้องเดินทางด้วยตนเองมากขึ้น ซึ่งหากใช้ในการเดินทางแล้วเกิดเสียระหว่างทางก็จะทำให้ยุ่งยากพอสมควรที่จะหาคนมาช่วยหรือหาช่างมาซ่อม ดังนั้น ถ้าทำได้และคิดว่ามีโอกาสได้ใช้รถในการเดินทางแน่ ๆ ก็ลองรวบรวมเงินสดสักก้อนใหญ่ที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อน แล้วหาซื้อรถยนต์เอนกประสงค์ใหม่ ๆ สักคันเพื่อใช้ในการเดินทางและท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียการซ่อม แต่ถ้าหากคิดว่ารถที่มีอยู่ยังพอใช้ได้และไม่ได้เดินทางไปไหนบ่อย ๆ หรือเดินทางไกล ๆ ด้วยตนเอง ก็ควรยกเครื่องรถยนต์ที่มีอยู่ให้มีสภาพใช้งานได้ในทุกสภาพดินฟ้าอากาศเพื่อไม่ให้เกิดข้อจำกัดเมื่อถึงยามจำเป็น เช่น การส่งคนใกล้ชิดไปโรงพยาบาลยามค่ำคืน เป็นต้น

        9. บ้านสำรอง หลังจากมีบ้านหลักแบบไม่ต้องห่วงเงินในการผ่อนต่อไปแล้ว อาจจะมองหาที่สวย ๆ ทำเลดี ๆ ไม่ไกลเมือง ไม่ไกลธรรมชาติ มีอาณาบริเวณสักหน่อย ถ้าติดแม่น้ำหรือติดทะเลด้วยก็จะดีมาก แล้วปลูกบ้านเล็ก ๆ ชั้นเดียว สองสามห้องนอน เอาไว้เป็นที่หลบความวุ่นวายของเมืองใหญ่อาจจะมาคนเดียวหรือพาศรีภรรยา หรือเพื่อน ๆ มาเป็นเพื่อนได้ หากคิดว่าจะอยู่บ้านหลักในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่ ๆ แล้วใช้เวลาที่มีเหลือเฟือหลังเกษียณอายุมาเปิดสมองและเปิดจิตใจให้ผ่องใส รวมทั้งอาจจะทำสวนหรือปลูกต้นไม้เป็นการออกกำลังกายไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตยืนยาวมากขึ้นได้ตามที่คาดการณ์ไว้ 

         คำชี้แนะของผมในเรื่องการเตรียมการชีวิตก่อนเกษียณจำนวน 9 ข้อ เป็นสิ่งที่ผมทำมาแล้วและทำได้ทั้ง 9 ข้อ (อันที่จริงมีมากกว่านี้แต่เกรงว่าจะยาวเกินเหตุ) แม้ว่าจะไม่ง่ายนักตอนที่ทำ แต่ก็คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน ที่เพื่อน ๆ ซึ่งยังไม่รู้หรือไม่มีแนวทางในเตรียมตนก่อนเกษียณอายุจะลองทำดู หากทำแล้วได้ผลประการใดหรือมีแนวทางอื่นที่เข้าท่ากว่านี้ก็นำมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันบ้างเพื่อเป็นวิทยาทานให้เพื่อน ๆ ที่เข้าคิวเกษียณตามหลังมาหรือเป็นวิทยาทานให้แก่ทุกท่านที่สนใจได้เข้ามาอ่านแล้วนำไปประยุกต์ใช้กับตนเองต่อไป  

--------------------------------

แนวทางการเตรียมการ การจัดพิธีศพและทรัพย์สินภายหลังการตาย บันทึกเมื่อ 3 ก.ค.67

อาทิตย์อัสดง ที่แหลมพรหมเทพ ภูเก็ต 
          เมื่อ 2 - 3 เดือนก่อน จากการสนทนาภายในไลน์กลุ่มเพื่อน ๆ นักเรียนนายร้อยที่เกษียณกันหมดแล้ว ผมได้เขียนประเด็นในอนาคตที่ทุกคนไม่ว่านอกหรือในกลุ่มไลน์รวมไปถึงภรรยาหนีไม่พ้นในเวลาอีกประมาณ 30 - 40 ปีข้างหน้า หรืออาจจะเร็วกว่านั้น นั่นคือความตาย และได้เล่าถึงการเตรียมการของผมตั้งแต่ตอนที่ผมอายุ 50 ปีต้น ๆ ก็ได้มีการคิดและเตรียมการไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะทรัพย์สินที่พ่อแม่ส่งต่อมาให้รักษา รวมกับที่ตนเองแสวงหาและสะสมเอาไว้ แต่มีประเด็นที่พบใหม่ก็คือ ทายาทที่มารับต่อไม่เข้าใจวิธีการและบางครั้งก็แสดงให้เห็นถึงความไม่สนใจ (เหมือนกับผมเองตอนยังโสด) 

          จนเมื่อเดือนที่ผ่านมาได้ปรากฏข่าวรุ่นพี่บ้างรุ่นน้องบ้างที่รุ่นไม่ไกลกันมากนักและรู้จักกันมาสั้นบ้างยาวบ้าง เริ่มมีข่าวป่วยตายแบบกระทันหันกันหลายราย ซึ่งประเด็นปัญหาที่คาดว่าจะต้องตามมาก็คือ การผ่านชีวิตมาของแต่คนไม่น้อยกว่า 60 ปีขึ้นไป และประสพความสำเร็จในชีวิตมามากบ้างน้อยบ้าง ย่อมมีทรัพย์สินเก็บสะสมไว้ในหลาย รูปแบบ ซึ่งหากตายแล้วแม้ว่าจะคิดว่าตนเองคงไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว แต่อาจจะเป็นการสร้างปัญหายุ่งยากให้กับครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังในการจัดการได้และแทนที่จะนำทรัพย์สินที่อุตส่าห์ดิ้นรนสะสมของตนเองมาให้ทายาทได้นำไปแก้ปัญหาก็อาจกลับกลายไปให้ใครก็ไม่รู้นำไปใช้หน้าตาเฉยหรือหาไม่เจอจนเสื่อมสลายไปโดยเปล่าประโยชน์

          จากประเด็นนี้ประกอบกับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้นัดเพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันก่อนเกษียณมากินข้าว ได้สนทนาและมีการสอบถามถึงเรื่องนี้ว่า มีความตั้งใจจะเริ่มเขียนพินัยกรรมและจัดการกับทรัพย์สินให้ลูก ๆ ได้เข้าใจการปฏิบัติขั้นต้นหากต้องจากกันโดยกระทันหัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเขียนบันทึกไว้อย่างไร จึงฝากคำถามนี้ไว้กับผม ผมนำเก็บมาคิดอยู่คืนหนึ่งก็คิดว่าน่าจะนำบทความการจัดการทรัพย์สินก่อนตายที่เคยเขียนไว้มารวมกับรายงานทรัพย์สินให้ ปปช. ตอนเกษียณ แล้วปรับเป็นหัวข้อเพื่อเข้าใจง่ายเพื่อแชร์ให้เพื่อนวัยเกษียณที่สนใจจะนำไปใช้ประโยชน์สำหรับตนเองและอาจส่งให้บุคคลใกล้ชิดหรือบุคคลที่สนใจประยุกต์ใช้ตามโอกาส โดยมีหัวข้อและรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนต่อจากคำกล่าวฉบับนี้ที่อยู่ต่อไป

          สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือ ในรายละเอียดบางข้ออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาหรือปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รวมทั้งความคลาดเคลื่อนอาจเกิดขึ้นได้จากความเข้าใจผิดของผมเอง ดังนั้น การนำแนวทางตามที่กล่าวไปใช้ก็ขอให้นำปัจจัยอื่น ๆ มาพิจารณาร่วมด้วยนะครับ

                                                                                พลเอก เบญจพล รังษีภาณุรัตน์

                                                                                      ผู้รวบรวม/จัดระเบียบ

                                                                                       2, 3 กรกฎาคม 2567

------------------------------------------------------------ 

เตรียมการหรือแจ้งความประสงค์ก่อนทำไม่ได้

ก. การจัดทำพินัยกรรม

1.   เขียนไว้ก่อนถึงแก่กรรม แบบที่นิยม ได้แก่ เขียนด้วยลายมือทั้งฉบับ กับแบบพิมพ์ 2 ฉบับ มีพยาน 2 คน ที่ไม่ใช่ทายาทหรือผู้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรม หากมีหลายหน้าให้เจ้าของพินัยกรรมลงชื่อกำกับทุกหน้า

2.  แบบฟอร์มและตัวอย่างหาได้จาก Google.com ใช้คำค้นว่า “ตัวอย่างการเขียนพินัยกรรม”

3.   หากทำได้ให้รวบรวมจัดทำบัญชีทรัพย์สินแทนคำว่าทรัพย์สินทั้งหมดของข้าพเจ้า

4.   กำหนดผู้ได้รับมรดกว่าได้รับทรัพย์สินอะไรบ้าง และการตัดทายาทไม่ให้ได้รับมรดก

5.   กำหนดผู้จัดการมรดก

6.  ถ้าทายาทหรือผู้จัดการมรดกตายก่อนต้องเขียนใหม่

7.  ถ้าเป็นความลับให้เก็บไว้ในสถานที่ที่คนข้างหลังหาเจอ

8.  ถ้าคิดว่าแจ้งให้ทราบได้ให้เขียนไว้อย่างน้อย 2 ฉบับ แล้วมอบให้ทายาทเก็บไว้ด้วย

9.  ควรมีการทบทวนพินัยกรรมทุก ๆ 5 ปี ว่ายังคงใช้ข้อความเดิมได้หรือไม่หรือต้องเขียนใหม่

10.   

ข. กำหนดความต้องการจัดงานศพ

1. สถานที่จัดงานศพที่วัด ......................... หรือที่บ้าน .......

2. กำหนดการจัดงานศพจำนวน ........ วัน

3. มีการบริจาคศพ ดวงตา อวัยวะ ให้โรงพยาบาล ...... หรือไม่

4. ต้องการน้ำหลวงอาบศพหรือพระราชทานเพลิงศพหรือไม่

5. ภาพถ่ายหน้างานศพ

6. การประดับหรือจัดสิ่งของหน้าหีบศพ

7. เขียนประวัติย่อตนเองสำหรับบันทึกไว้ในหนังสือแจกงานศพ หรืออ่านประวัติก่อนฌาปนกิจศพ

8. วิธีการจัดการต่อเถ้ากระดูก ลอยอังคาร, บรรจุเจดีย์, เก็บไว้ที่บ้าน

9. รายละเอียดความต้องการอื่น ๆ  เช่น งดเงินช่วย งดพวงหรีด การบริจาคเพื่อทำบุญ

10.   

ค. การจัดการอื่น ๆ

1.  ตรวจสอบผู้รับสิทธิประโยชน์จากบำเหน็จตกทอด เงินฌาปนกิจ เงินประกันชีวิตให้ทันสมัย

2.  การส่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือจะเก็บไว้โดยให้ทางราชการหักเงิน

----------------------------------------------

การดำเนินการของทายาทหลังเจ้าของพินัยกรรมตาย

ก. การจัดการงานศพ

1.  แจ้งข่าวให้ญาติสนิทผู้ตายทราบเพื่อเตรียมร่วมพิธีศพ

2. แจ้งเทศบาล ..................... การถึงแก่รรม

3.  แจ้งสถานีตำรวจในพื้นที่ หากการถึงแก่กรรมไม่เป็นไปตามธรรมชาติ

4. กำหนดจำนวนวันสวดพระอภิธรรมศพและวันฌาปนกิจศพ

5. หากบริจาคร่างกาย ประสานโรงพยาบาลที่รับบริจาคร่างและอวัยวะ

6. ประสานวัด .......................... แจ้งกำหนดการพิธีศพ

7. การประดับดอกไม้หน้าหีบศพ ภาพ เครื่องแบบ กระบี่

8. แจ้งข่าวผู้เคารพนับถือผู้ถึงแก่กรรม

9. แจ้ง จปร.32 ทราบเพื่อเป็นเจ้าภาพงานศพและมอบเงินสวัสดิการ

10. แจ้งชมรมอื่น ๆ เช่น นักเรียนโรงเรียนเก่าก่อนผู้ตายเข้า รร.จปร., หลักสูตรการศึกษาที่ผู้ตายเรียนภายหลังจบ รร.จปร.

11.  การจัดการพิธีรดน้ำศพ

12. แจ้งบริษัทประกันชีวิต ........................ เพื่อให้มาดูศพ และรับเงินจำนวน ............................ บาท

13. ติดต่อกับ ........................ เพื่อขอพระราชทานเพลิง

14. เตรียมของชำร่วยกรณีฌาปนกิจศพ

15. การจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ

16. แจ้งหน่วยงาน ............................. ระงับการจ่ายเงินบำนาญ

17.  การจัดงานทำบุญ 7 วัน และการทำบุญก่อนฌาปนกิจศพ แล้วแต่สิ่งใดจะถึงก่อนกัน

18. การจัดงานทำบุญ 50 วัน  และ ทำบุญ 100 วัน และครบ 1 ปี 2 ปี 3 ปี

ข. การจัดการประกันชีวิต ฌาปนกิจ

1.   เงินจากประกันชีวิตจะมอบให้ตามชื่อที่เขียนไว้ในเอกสารประกัน ไม่จำเป็นต้องเขียนไว้ในพินัยกรรม

2.  บริษัทประกันชีวิต ..................... ที่ทำไว้หรือที่ซื้อผ่านธนาคาร ควรแจ้งก่อนการฌาปนกิจศพ

3.  ฌาปนกิจกองทัพบก ติดต่อ .......... หากทำไว้จะมียอดเงินประมาณ 200,000 กว่าบาท แต่อาจได้ไม่ครบ

4.  ฌาปนกิจ สลก.ทบ. ติดต่อ .......... หากทำไว้จะมียอดเงินประมาณ 100,000 กว่าบาท แต่อาจได้ไม่ครบ

5.  ฌาปนกิจองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ติดต่อ .............. หากมี จะมียอดเงินประมาณเกือบ 300,000 บาท 

6.  เงินช่วยจากการเป็นสมาชิกของฌาปนกิจอื่น ๆ ...............................

7.        ...

ค. บำเหน็จตกทอดและค่าจัดการงานศพ

1.  ทายาทติดต่อสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเพื่อแจ้งการตาย

2. บำเหน็จตกทอด 30 เท่าของเงินเดือนสุดท้ายประมาณ 2,000,000 บาท แต่ต้องหักเงินดำรงชีพที่ได้รับไปแล้ว ตอนอายุ 60 ปี 200,000 บาท ครบ 65 ปี 200,000 บาท และ 70 ปี 100,000 บาท

3.   ผู้ได้รับส่วนบำเหน็จตกทอดแบ่งตามอัตราที่กำหนดไว้แล้ว ภรรยา และบุตร

4.   ค่าจัดงานศพ 3 เท่าของเงินเดือนสุดท้าย ประมาณ 200,000 บาท

5.  ค่าจัดงานศพมอบให้ผู้จัดการงานศพ

---------------------------------------

การดำเนินการของผู้จัดการมรดก

ผู้จัดการมรดก

1.  ผู้แทนทายาทหรือผู้รับมอบตามพินัยกรรมดำเนินการติดต่อศาลด้วยตนเอง หรือจ้างทนายความให้ดำเนินการให้ประมาณ 10,000 บาท (ปี 2556 ราคา 5,000 บาท)

2.  การขออำนาจศาลให้แต่งตั้งผู้จัดการมรดก

3.  ทายาทผู้ต้องลงนามยินยอม ได้แก่ พ่อ แม่ ภรรยา บุตร ธิดา ของผู้ตายเพื่อใช้ประกอบการยื่นต่อศาล

4.  ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จะได้รับเอกสาร คำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดก

5.   ประมาณ 20 - 30 วัน ให้ไปรับ หนังสือสำคัญเพื่อแสดงว่าคดีถึงที่สุด (ไม่มีคนร้องคัดค้าน)

6.  ผู้จัดการมรดกเปิดพินัยกรรมและดำเนินการตามพินัยกรรม สำหรับทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในพินัยกรรมให้รวบรวมมาแบ่งตามสัดส่วน (ที่แบ่งยากให้ขายเป็นเงิน)

7.  ถ้าไม่มีพินัยกรรม รวบรวมทรัพย์สินผู้ตายหักด้วยหนี้สิน คงเหลือแบ่งตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด

8.  ผู้จัดการมรดกใช้เอกสารการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกและหนังสือแสดงว่าคดีถึงที่สุดที่ได้รับจากศาลไปดำเนินการโอนทรัพย์สินต่าง ๆ หรือถอนเงินปิดบัญชีธนาคาร

9.  หากทำได้ผู้จัดการมรดกควรแบ่งทรัพย์สินให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี

------------------------------------------------------------

การจัดทำรายละเอียดทรัพย์สินของเจ้าของทรัพย์สินมอบให้ผู้จัดการมรดกก่อนตาย

ก. เงินสดของตนเอง

1.  เงินสดจำนวน .... บาท เก็บไว้ที่ .....

2. เงินสดจำนวน .... บาท เก็บไว้ที่ .....

3.        ....

4.  การดำเนินการรวบรวมแล้วหารแบ่งตามสิทธิ์ทายาท

ข. เงินสดของคนอื่น รับฝาก

1. เจ้าของชื่อ .... เงินสดจำนวน .... บาท เก็บไว้ที่ .....

2. เจ้าของชื่อ .... เงินสดจำนวน .... บาท เก็บไว้ที่ .....

3. การดำเนินการนำเงินส่งคืนเจ้าของตัวจริงพร้อมบันทึกหลักฐานและพยาน

ค. บัญชีเงินฝากมีการใช้งานและมีสมุดบัญชี

1. บัญชีธนาคาร ชื่อ ผู้ตายและเป็นเจ้าของเงินทั้งหมด

1.1    ธนาคาร ... สาขา ... ออมทรัพย์ หมายเลข .... เก็บสมุดไว้ที่ ... มีบัตร ATM มี App ในมือถือเบอร์ ...  มีเงินประมาณ .....

1.2    ธนาคาร ... สาขา ... ประจำ หมายเลข .... เก็บสมุดไว้ที่ ... ไม่มีบัตรหรือ App ...  มีเงินประมาณ .....

1.3    ธนาคาร ... สาขา ... .....

1.4    การดำเนินการ เบิกเป็นเงินสดแล้วแบ่งตามสิทธิ์ของทายาท

2. รายการบัญชีธนาคาร ชื่อผู้ตายแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของเงิน

2.1    ธนาคาร ... สาขา ... ออมทรัพย์ หมายเลข .... เก็บสมุดไว้ที่ ... มีเงินประมาณ .....

2.2    ธนาคาร ... สาขา ... .....

2.3    การดำเนินการ เบิกเงินสดแล้วส่งคืนเจ้าของตัวจริง

3.  รายการบัญชีธนาคาร ชื่อ ผู้ตาย เป็นเจ้าของเงินบางส่วน

3.1    ธนาคาร ... สาขา ... ออมทรัพย์ หมายเลข .... เก็บสมุดไว้ที่ ... มีเงินประมาณ .....

3.2    ธนาคาร ... สาขา ... .....

3.3    การดำเนินการ เบิกเป็นเงินสดแล้วส่งคืนเจ้าของตัวจริง

4.  บัตร ATM ธนาคาร ... รหัส ... (แยกบันทึก) เก็บไว้ที่ ...

5. ก่อนตายและทราบว่าป่วยหนัก ถ้าทำได้ ให้ถอนเงินออกมาให้หมด  

ง. เงินฝากอื่นที่ไม่ใช่ธนาคาร     

1. สลากออมสิน หมายเลข ... ถึง ... รวม ... บาท ครบกำหนดวันที่ .... เอกสารเก็บไว้ที่ ... ติดต่อ .....

2. ทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ ...... หมายเลขสมาชิก .... จำนวน .... บาท เอกสารยืนยัน .... เก็บไว้ที่ ... ติดต่อ ...

3.  เงินฝากพิเศษสหกรณ์ ...... ประเภท ... บัญชีหมายเลข .... จำนวน .... บาท บัญชีเก็บไว้ที่ ... ติดต่อ ...

4.        ...

จ. บัญชีเงินฝากมีการใช้งานแต่ไม่มีสมุดบัญชี

1.  App ธนาคาร ... ประเภท .... หมายเลข .... ผูกกับมือถือ หมายเลข ... มีเงินประมาณ ... รหัสผ่าน ... (แยกบันทึก)

2. App ธนาคาร ... ประเภท .... หมายเลข ....  

3. การดำเนินการ เบิกออกแล้วแบ่งตามสิทธิ์ทายาท

ฉ. กองทุน

1.  RMF ชื่อกองทุน .... ธนาคาร ..... เลขที่บัญชี .... ผูกกับบัญชีธนาคาร .... หมายเลข ... ปันผลจำนวน .... ทุกวันที่ .... เก็บเอกสารไว้ที่ ...

2.  LTF ชื่อกองทุน .... ธนาคาร ..... เลขที่บัญชี ..... ผูกกับบัญชีธนาคาร .... หมายเลข ... ปันผลจำนวน .... ทุกวันที่ .... เก็บเอกสารไว้ที่ ...

3.  ...

4.  การดำเนินการ ขายคืนนำเงินหารแบ่งตามสิทธิ์ทายาท

ช. หุ้น

1. ชื่อ .... จำนวน ..... หุ้น ราคาต่อหุ้น .... ปันผลจำนวน .... เข้าบัญชีธนาคาร ... วันที่ .... เก็บเอกสารไว้ที่ ติดต่อกับบริษัทที่ .....

2. ชื่อ .... จำนวน .....

3. การดำเนินการ ขายคืนนำเงินหารแบ่งตามสิทธิ์ทายาท

ซ. ค่าเช่าทรัพย์สิน รายเดือนและรายปี

1. ประเภททรัพย์สินที่ดินให้เช่า

1.1    ที่ดินเปล่า

1.2    ที่จอดรถ

1.3    ที่นา

1.4    ที่ไร่ ที่สวน

1.5    บ้านพร้อมที่ดิน

1.6    คอนโดมิเนียม

2. รายการทรัพย์สินที่ดินให้เช่า

2.1    มีที่ดินอย่างเดียว หรือมีสิ่งปลูกสร้าง

2.2    อยู่ที่ไหน

2.3    พื้นที่เท่าไร

2.4    โฉนดที่ดินหรือหนังสือสิทธิ์ หมายเลข ... เก็บไว้ที่ ...

2.5    ราคาโดยประมาณ

2.6    ค่าเช่าเท่าไร

2.7    วงรอบจ่ายค่าเช่า

2.8    สัญญาเช่า

2.9    ชื่อผู้เช่า ... โทร ....

2.10 ค้างจ่ายบ้างหรือไม่

2.11 จ่ายภาษีอย่างไร

2.12 ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ สาธารณูปโภค มีค้างชำระหรือไม่

3. การดำเนินการแต่ละรายการกำหนดมอบให้ทายาทคนใดตามพินัยกรรมหรือแบ่งตามสัดส่วน

4. การแบ่งตามสัดส่วนใช้การประเมินราคาหรือขายเป็นเงินมาแบ่ง

ด. ยานพาหนะ

1.  รถยนต์ ยี่ห้อ .... รุ่น .... สี ... ชนิดน้ำมัน ... หมายเลขทะเบียน .... สมุดทะเบียนเก็บไว้ที่ ..... ต่ออายุทุกวันที่ .... บริษัทประกันภัย ... ราคาซื้อ ... ซื้อเมื่อ ... ลูกกุญแจเก็บไว้ที่ ... ตัวรถเก็บไว้ที่ ...

2.  รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ .... รุ่น .... สี ... ชนิดน้ำมัน ... หมายเลขทะเบียน .... สมุดทะเบียนเก็บไว้ที่ ..... ต่ออายุทุกวันที่ .... บริษัทประกันภัย ... ราคาซื้อ ... ซื้อเมื่อ ... ลูกกุญแจเก็บไว้ที่ ... ตัวรถเก็บไว้ที่ ...

3.  .... ยี่ห้อ .... รุ่น ...

4. แต่ละรายการจะกำหนดมอบให้ทายาทคนใดตามพินัยกรรมหรือแบ่งตามสัดส่วน

ต. อาวุธปืน

1.  ยี่ห้อ .... รุ่น ... ขนาดกระบอก ... หมายเลข ... ทะเบียนปืน ... ใบทะเบียนเก็บไว้ที่ ... ซื้อจาก ..... เมื่อ .... ราคา .... เก็บไว้ที่ .....

2. ยี่ห้อ .... รุ่น ... ขนาดกระบอก ...

3.  แต่ละรายการจะกำหนดมอบให้ทายาทคนใดตามพินัยกรรมหรือแบ่งตามสัดส่วน

ถ. สิ่งของมีค่า เครื่องประดับราคาสูง

1.  ทองคำ ... จำนวน .... มูลค่า ... เก็บไว้ที่ ...

2.  นาฬิกา ... จำนวน .... มูลค่า ... เก็บไว้ที่ ...

3.  ....

4.  แต่ละรายการจะกำหนดมอบให้ทายาทคนใดตามพินัยกรรมหรือแบ่งตามสัดส่วน

ท. สิ่งที่มีคุณค่า

1.  กระบี่สั้นมอบให้แก่ ...

2.  กระบี่ยาวมอบให้แก่ ...

3.   iPhone รหัส ... (แยกบันทึก)

4.   iPad รหัส ... (แยกบันทึก)

5.        ...

น. พระเครื่อง

1.  พระบูชา ชื่อ ... ขนาด ... ราคา ... เก็บไว้ที่ ...

2.  เหรียญพระ ชื่อ ... ขนาด ... ราคา ... เก็บไว้ที่ ...

3.  .....

4. แต่ละรายการจะกำหนดมอบให้ทายาทคนใดตามพินัยกรรมหรือแบ่งตามสัดส่วน

บ. ลูกหนี้กู้ยืมเงิน

1. ผู้กู้ชื่อนามสกุล ... ยืมเงินจำนวน ... บาท เมื่อ ... ยังคงค้าง ... บาท ครบกำหนด ... สัญญากู้ยืมเก็บไว้ที่ ...

2. ผู้กู้ชื่อนามสกุล ...

3.  ติดตามทวงถาม นำเงินที่ได้แบ่งทายากตามพินัยกรรมหรือแบ่งตามสัดส่วน

---------------------------------------------------

หนี้สิน

ก. หนี้สินส่วนบุคคล

1. กู้ยืมเงินจาก นาย ... ติดต่อ ... จำนวน .... บาท สัญญา .... เก็บไว้ที่ ... ครบวันจ่าย ....

2.    ...  

3.  การดำเนินการ ใช้เงินจากผู้ตายใช้หนี้ให้เรียบร้อยก่อนนำไปแบ่งให้ทายาท

ข. ค่าใช้จ่ายที่ผูกบัตรเครดิตที่ตัดอัตโนมัติและที่ต้องไปจ่าย

1. หนี้สินบัตรเครดิตที่ตัดค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ

1.1    บัตรวีซ่าธนาคาร ... หมายเลข ...

1.1.1  ตัดทุกวันที่ 30 ค่าไฟฟ้า  จำนวนประมาณ ...  บาท

1.1.2  วันที่ 8 ....

1.1.3  เก็บบัตรไว้ที่ ....

1.2    บัตร .... ธนาคาร ....

2. หนี้สินรายเดือน ต้องดำเนินการจ่ายเอง

2.1    วันที่ 30 โทรศัพท์มือถือ หมายเลข .... จำนวน ... บาท

2.2    วันที่ 1 ตัดค่าอินเทอร์เน็ตบ้าน หมายเลข จำนวน ... บาท

2.3    วันที่ 1 ...

3. หนี้สินรายปี ต้องดำเนินการจ่ายเอง

3.1    ทุกวันที่ 1 มี.ค. จ่ายภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.91 (หาผู้ดำเนินการแทนในการจ่ายภาษีจนถึงวันตาย)

3.2    ทุกวันที่ 30 เม.ย. จ่ายภาษีที่ดินที่ ...... ให้แก่ .... จำนวน ..... บาท

4.   นำเงินส่วนกลางของผู้ตายจ่ายก่อนที่จะไปขั้นตอนการแบ่งให้ทายาท หากไม่พอให้ขายทรัพย์สินมาจ่าย

ค. หนี้สินระยะยาว

1. ค่าผ่อนบ้าน ระยะ ... ปี จ่ายเดือนละ ... บาท โดยหักเงินจาก ..... จะสิ้นสุดเมื่อ ...

2. ค่าผ่อนรถยนต์ ระยะ ... ปี จ่ายเดือนละ ... บาท โดยหักเงินจาก ..... จะสิ้นสุดเมื่อ ...

3.   เงินกู้ธนาคาร ระยะ ... ปี จ่ายเดือนละ ... บาท โดยหักเงินจาก ..... จะสิ้นสุดเมื่อ ...

4.  เงินกู้ยืมส่วนตัว ผู้ให้กู้ชื่อ .... การติดต่อ ..... จำนวน .... บาท สัญญากู้ ..... ครบกำหนด ... คงค้าง ... บาท

5.  นำเงินส่วนกลางของผู้ตายจ่ายก่อนที่จะไปขั้นตอนการแบ่งให้ทายาท หากไม่พอให้ขายทรัพย์สินมาจ่าย

ง. รายการรอจ่ายตามวงรอบ

1.  ค่าไฟฟ้ารายเดือน บ้านเลขที่ ..... จำนวนประมาณเดือนละ ... บาท

2. โทรศัพท์มือถือรายเดือน หมายเลข .... บริษัท ... ทุกวันที่ ... ประมาณ ... บาท จ่ายทาง ...

3.  อินเทอร์เน็ตบ้านรายเดือน หมายเลข .... บริษัท ... ทุกวันที่ ... ประมาณ ... บาท จ่ายทาง ...

4. ค่ารายปี Google One บัญชี .... รหัส ... (แยกบันทึก)

5.  ค่ารายปี Microsoft 365 บัญชี .... รหัส ... (แยกบันทึก)

6.  ค่ารายเดือน YouTube Premium บัญชี .... รหัส ... (แยกบันทึก)

7.  ค่ารายเดือน iCloud บัญชี .... รหัส ... (แยกบันทึก)

8.  Netflix รายเดือน บัญชี .... รหัสผ่าน ... ทุกวันที่ ... ประมาณ ... บาท จ่ายทาง ...

9.        ….

-------------------------------------------------

รายละเอียดอื่น ๆ

ก. เจตนาหรือการสั่งเสียอื่นที่สำคัญ

1.  การดำเนินการต่อสิ่งของที่สะสมไว้ เช่น หนังสือ สัตว์เลี้ยง .....

2.  ....

ข. รายการทรัพย์สินที่ยกเลิกไปแล้ว ไม่ต้องติดตามสอบถามอีก

1.  บัญชีธนาคาร

1.1 เงินในบัญชีเงินฝากทุกชนิดใน ธนาคาร ... ไม่มียอดเงินแล้ว แต่อาจจะยังเปิดอยู่ ไม่ต้องติดตาม

1.2  เงินในบัญชีเงินฝากทุกชนิดใน ...

2. เงินฝากเงินออมนอกเหนือจากธนาคาร

2.1  ยกเลิกสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ ... ถอนเงินหมดแล้ว

2.2 ยกเลิกการเป็นสมาชิกของ ฌาปนกิจ ... แล้ว

2.3  ปิดบัญชีประกันชีวิต ... แล้ว และไม่มีประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพอื่นอีก

2.4   

ค. เอกสารสำคัญอื่น

1. ทะเบียนบ้าน เก็บไว้ที่ ...

2. บัตรประชาชน เก็บไว้ที่ ...

3. บัตรข้าราชการบำนาญ เก็บไว้ที่ ...

4.  ทะเบียนสมรส เก็บไว้ที่ ...

5.  ทะเบียนบ้าน เก็บไว้ที่ ...

6.        ....

ง. ลูกกุญแจ

1. กุญแจบ้าน เก็บไว้ที่ ...

2. กุญแจรถยนต์ เก็บไว้ที่ ...

3. กุญแจมอเตอร์ไซค์ เก็บไว้ที่ ...

4.        ...

จ. โทรศัพท์มือถือหมายเลข ....

1.      เก็บรักษาเบอร์และเครื่องไว้อย่างน้อย 1 ปีหลังจากตาย

2.      เก็บมือถือไว้ที่ ...

3.      รหัสผ่านเข้าเครื่อง ... (แยกบันทึก)

4.      มี App ที่สำคัญคือ

4.1    App ธนาคาร .... รหัสผ่าน ... (แยกบันทึก)

4.2    App บัตรทางด่วน

4.3    ...

5.      ....  

ฉ. รหัสผ่าน Hardware (แยกบันทึก)

1.  Notebook ...

2. มือถือ ...

3. กุญแจตู้ ....

4.        ....

ช. รหัสผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือ App (แยกบันทึก)

1.  อีเมล ชื่อบัญชี .... รหัส ...

2.  Line ชื่อบัญชี .... รหัส ...

3. Facebook ชื่อบัญชี .... รหัส ...

4.  Apple ID ชื่อบัญชี .... รหัส ...

5.        ....  

ซ. App จ่ายเงินแบบซื้อขาดที่ผูกกับ Appie ID

1. App Scanner Pro

2.        ……

ด. รายการสิ่งของส่งคืน

1.  เอกสารการคณะกรรมการรุ่น ......... ส่งคืน ........ โทร ...

2.        .....

----------------------------------------------------

 

1.   

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ